ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงนี้สำหรับ ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและ หมอก ควัน ในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงน่าวิตก โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ขึ้นแท่นอันดับ 1 เมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงสุดในโลก
โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir ณ เวลา 09.17 น.วันที่ 12 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ และการท่องเที่ยวในจังหวัดเช่นกัน โดยนางละเอียด บุ้งศรีทอง ที่ปรึกษากรรมการสมาคมโรงแรมไทย ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สถานการณ์ หมอก ควัน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังเป็นปัญหาหนักในช่วง 2 สัปดาห์นี้ และเป็นปัญหาระยะยาวเรื้อรังที่เกิดขึ้นซ้ำทุกปี ซึ่งทางจังหวัดเองก็มีการช่วยเหลือเต็มที่ แต่คงแก้ไขกันปีต่อปีไม่ได้ ต้องมีการวางแผนในระยะยาว รวมถึงรัฐบาลเองต้องลงมาแก้ไขอย่างจริงจังหาปล่อยไว้จะแก้ยาก
“ก็คิดว่าเป็นปัญหาที่มัน เป็นปัญหาระยะยาว และเป็นภาพของ Destination ไปแล้ว ว่าสำหรับสอง week แรกน่าจะมีปัญหาเรื่อง หมอก ควัน แต่ถามว่าเชียงใหม่เองก็ไม่ได้เป็นเมืองที่เดียวที่มีปัญหาอยู่ กรุงเทพฯก็มีใช่ไหมคะ มองดูว่าปัญหาระยะยาวกับกลาง ถ้าเราเป็นเชิงระดับแบบรัฐบาลกลาง มันน่าจะพอช่วยได้ระยะยาว แต่ก็ไม่รู้ว่าปีหน้าก็จะแก้ได้รึเปล่า นี่ยังไม่มั่นใจ ถ้ารัฐบาลไม่ลงมาจับในกลางกับยาวก็คงจะแก้ยาก เพราะสัดส่วน majority ที่เป็นเรื่อง ฮอตสปอต ก็คือไฟไหม้ป่า สัดส่วนมันน่าจะเยอะ จังหวัดก็เต็มที่นะ แต่ว่ามันคงแก้ปีต่อปีอย่างนี้ไม่ได้ มันคงต้องวางแผนระยะยาว ”
ทั้งนี้ นางละเอียด ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของยอดจองห้องพักของนักท่องเที่ยวนั้น มีการยกเลิกไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนไทย ในโรงแรมที่เป็นพื้นที่ outdoor ซึ่งก็เป็นไปตามคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว “คือการยกเลิกมีไม่ค่อยเยอะ ยกเว้นจะมีกลุ่มคนไทย บางโรงแรมที่เป็นพื้นที่ outdoor นะคะ แต่ตลาดต่างประเทศไม่มีจองเพิ่ม แต่อัตราการยกเลิกน้อยมาก”
อย่างไรก็ตามคงต้องจับตาดูสถานการณ์ หมอก ควัน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ว่าจะบรรเทาลงเมื่อใด รัฐบาลเองจะมีมาตรการหรือการช่วยเหลืออะไรให้คลี่คลาย เพื่อสุขภาพของประชาชน และหนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวให้เดินหน้าต่อไปไม่สะดุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews