หลังจากที่ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ มาแล้วนั้น ในปี2566 ก็เป็นการเริ่มต้นฟื้นตัวของหลายๆ ภาคส่วน ซึ่งภาคเศรษฐกิจ ธุรกิจ และท่องเที่ยว ก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงมีชาวต่างชาติเข้ามาเยือนประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
ส่งผลให้เศรษฐกิจ การจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สะดุดไปเมื่อช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็เริ่มกลับมาสดใสเป็นที่จับตามองอีกครั้งโดย นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. สำหรับสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมีปัจจัยหลายเรื่องรบกวน รวมถึงเรื่องการเมืองด้วย
“ก็ค่อยๆ ฟื้นนะ บังเอิญมันมีปัจจัยเข้ามาหลายเรื่อง ทั้งดอกเบี้ย แล้วก็ต้นทุนด้านภาคก่อสร้าง รวมทั้งเรื่องการเมืองด้วย ก็เลยทำให้การฟื้นตัวมันก็ค่อยๆ ฟื้น ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร” และเมื่อถามถึงตัวปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว นายอธิป กล่าวว่า หลักๆ ยังเป็นคนในประเทศ ส่วนต่างประเทศก็เริ่มมีเข้ามาบ้างแล้ว
“คนในประเทศเป็นหลัก แต่ว่าคนต่างประเทศเราก็หวังว่าจะกลับเข้ามาเร็วๆ นี้ จริงๆ ก็กลับเข้ามาแล้ว คนจีน ก็กลับเข้ามาซื้อแต่ว่ายังไม่มาก” ทั้งนี้ นายอธิป ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การเมืองในบ้านเราขณะนี้ ก็มีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บ้างเล็กน้อย ทำให้การตัดสินใจซื้อของประชาชนชะลอตัวลงบ้าง และก็ต้องติดตามดูว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงนโยบายในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย
“ก็มีผลบ้างก็คือว่า มันเนื่องจากว่ายังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ก็ทำให้นโยบายในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่ชัดเจน ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร คงจะต้องรอไปจนถึงเดือนประมาณเดือน ก.ย. ส.ค. นะ ตอนนี้ก็ต้องทำใจเพราะมันก็เป็นปกติ ที่มันจะต้องหลังเลือกตั้ง กว่าจะจัดตั้งรัฐบาล และก็พอหลังจากมีรัฐบาลแล้ว ก็ใช่ว่าเราจะไปเรียกร้อง หรือเราจะไปยื่นให้กระตุ้นเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ เขาก็มีเรื่องอื่นที่จะต้องพิจารณาไปพร้อมๆ กันเหมือนกัน” แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้น แต่ก็ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นั้นจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เต็ม100% เมื่อใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
