จับสัญญาณการลงทุนในห้วงจังหวะการเมืองเข้มข้น เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ทรงพลังและถูกจับตามากที่สุดในขณะนี้ก็คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย นั่นเพราะรัฐบาลนายกฯลุงตู่ได้เร่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
ก่อนหน้านี้นายกฯลุงตู่ ประกาศชัดถึงแผนดึงเอาฐานการผลิตยานยนต์มาในประเทศไทย และให้ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ๆ ที่สำคัญของโลก มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยอีกด้วย
และวันนี้ภาพของการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างไรในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถาม นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. โดย “นายสุรพงษ์” กล่าวว่า ต่างชาติมองไทยเหนือชั้น เพราะมีบุคลากรที่อยู่ในวงการรถยนต์มากว่า 60 ปีแล้ว ขณะที่ศักยภาพแรงงานดีมาก
นอกจากนี้ “นายสุรพงษ์” ยังได้กล่าวถึงยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยระบุว่า มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้าว่าปีนี้ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 4 หมื่นคัน และถ้าค่ายรถยนต์หั่นราคารถยนต์ไฟฟ้าลงมาแตะที่ 2-3 แสนบาทต่อคัน ก็คาดว่ามีโอกาสที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าจะพุ่งถึง 5-7 หมื่นคันได้
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ถึงกลุ่มยานยนต์ไว้อย่างน่าสนใจ คาดตัวเลขเดือน มี.ค. จะปรับตัวสูงขึ้น แรงหนุนจากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ระหว่าง 22 มีนาคม-2 เมษายน 2566 ผู้จัดงานคาดจะมียอดจองเพิ่มขึ้น 15-20% จากปีก่อนที่มียอดจองซื้อรถยนต์ 31,896 คัน แนวโน้มปี 2566 ค่ายรถยนต์โตโยต้าตั้งเป้าหมายตลาดรถยนต์รวม 900,000 คัน โต 6%YoY
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเดือน ก.พ. มียอดขายที่สูงถึง 5,466 คัน เติบโต 1,498%YoY รวมสองเดือนแรกมียอดขาย 8,434 คัน เติบโต 1,292%YoY แรงหนุนจากมาตรการของรัฐบาลจึงให้เงินอุดหนุน ลดภาษีนำเข้า และลดภาษีสรรพสามิต จะทำให้รถยนต์ BEV ถูกลงประมาณ 2.26-2.47 แสนบาท ปี 2566 ฝ่ายวิจัย คาดยอดขายรถไฟฟ้าจะประมาณ 3-5 หมื่นคัน เติบโต 213-422% คิดเป็น 3.3-5.5% ของตลาดรถยนต์ในประเทศ ส่วนยอดส่งออกรถยนต์ในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 1.05 ล้านคัน เติบโต 5%
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด เพราะทุกความเคลื่อนไหว ย่อมหมายถึงกระจกที่สะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยผ่านกำลังซื้อของประชาชนนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
