สังเวียนเมืองหลวง 33 เก้าอี้ สส.หอมหวานอย่างยิ่ง ทุกค่ายการเมืองหมายมั่นปักธงในใจประชาชน ฉะนั้นแล้วแต่ละพรรคจึงต้องคัดสรรแม่ทัพคุมการเลือกตั้งที่จัดว่าเด็ด
โดยมาส่องกันที่พรรคแรกคือเพื่อไทย งานนี้ได้ เจ๊แจ๋น ดร. พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้แต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ซึ้งเธอผ่านทั้งเป็นเลขารัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษาทั้งนายกฯ-รองนายกฯ มาแล้ว
“เจ๊แจ๋น พวงเพ็ชร”จัดเป็นหญิงแกร่งมากบารมี ใจถึงพึ่งได้ เป็นชาวกรุงเทพ แต่แจ้งเกิดทางการเมืองครั้งแรกที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ได้รับเลือกเป็น ส.อบจ.เลย จากนั้นก็อยู่ค่ายชาติพัฒนา แล้วขยับมาอยู่ไทยรักไทย ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และมาสังกัดเพื่อไทย ต่อมาถูกมอบหมายให้ช่วยดูแลเมืองหลวง ว่ากันว่า เจ๊แจ๋นเป็นมือขวา เฮียเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล สายตรงนายใหญ่ ซึ่งศึกเลือกตั้งกทม.ครั้งนี้ได้กระแส อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร น่าจะทำให้ค่ายเพื่อไทยได้ใจคนกรุงไปได้ไม่น้อย
ค่ายต่อมาคือ ประชาธิปัตย์ ได้ องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค มาเป็นหัวหน้าทีมที่ดูแลภาพรวมพื้นที่ กทม. โดย องอาจ ในอดีตเคยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตสส.กรุงเทพฯ หลายสมัย ซึ่งในเลือกตั้งครั้งนี้ องอาจ มาเป็นทีมกับ มาดามเดียร์ น.ส.วทันยา บุนนาค ภรรยาฉาย บุนนาค เจ้าพ่อสื่อใหญ่ย่านบางนา และ ด๊อกเตอร์เอ้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม.
คนต่อมา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของค่ายก้าวไกล เป็นหัวหน้าทีม กทม.ของพรรคสีส้ม โดยอดีต วิโรจน์ เคยเป็นวิศวกร แล้วมาทำงานด้านการศึกษา และงานบริหารในองค์กรเอกชนยาวนานกว่า 16 ปี ก่อนเข้าการเมือง ซึ่งเขาถือเป็นตัวจิ๊ดในวงการการเมือง เวลาที่ลุกขึ้นอภิปรายแต่ละครั้งทำการบ้านมาอย่างดี สร้างสีสันได้ฉมัง ซึ่งเลือกตั้งกทม.ครั้งนี้ น่าจะได้รับอานิสงส์จากกระแสหัวหน้าพิธา ฮิตในเมืองหลวงจากการสำรวจของหลายสำนักโพล
คนต่อมา “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง กทม. ของ ค่ายเสี่ยหนู พลังใบ ที่ย้ายมาค่ายพลังประชารัฐ โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในรัฐบาลประยุทธ์ และในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556-2557 “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ เป็นหนึ่งใน 9 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค และเข้าเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส. ร่วมกับแกนนำและแนวร่วมคนอื่นๆ
คนต่อมา”เสี่ยจั๊ม” สกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐและหัวหน้าทีมดูแลพื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ค่ายพลังประชารัฐ อดีตเคยเข้าร่วมชุมนุมกับกปปส. เขาเป็นบุตรชายของพลเอกวินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการคมช. คณะรัฐประหารโค่นอำนาจทักษิณ ชินวัตร ในปี พ.ศ. 2565 สกลธีได้ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในนามผู้สมัครอิสระ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ล่าสุดมาช่วยลุงป้อม ตั้งเป้ายึด ส.ส.กทม. ไม่ต่ำกว่าเดิมคือ 12 ที่นั่ง
คนต่อมา “เสี่ยขิง” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะแม่ทัพ สู้ศึก กทม. คนนี้ก็อดีตแกนนำ กปปส.ด้วยเช่นกัน และเคยเป็นเลขานุการส่วนตัวของเทพเทือก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยการสู้เลือกตั้งกทม. ครั้งนี้ แน่นอนว่าต้องอาศัยใบบุญของลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ และฐานเสียงความนิยมเก่าๆของเทพเทือก ซึ่งงานนี้พรรครวมไทยสร้างชาติน่าจะเหนื่อยไม่ใช่น้อย
ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ในกรุงเทพมหานคร 30เก้าอี้ โดยพลังประชารัฐ กวาดไป12 ที่นั่งอนาคตใหม่ ซิวไป 9ที่นั่ง และ เพื่อไทย 9 ส่วนประชาธิปัตย์และ ภูมิใจไทย ไม่ได้แม่แต่คนเดียว ฉะนั้นต้องจับตาว่าครั้งนี้ค่ายไหนจะได้ใจคนกรุงมากกว่ากัน!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
