ถือว่ามาได้ถูกจังหวะกับการใช้สิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2566 ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนนั่น
เพราะหนึ่งในสิทธิที่ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจะได้รับ นั่นคือ วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งวงเงินดังกล่าว รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีรายได้น้อยในการเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ได้เป็นอย่างดี เพราะสงกรานต์ปีนี้จะมีความคึกคึก ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้า ประเมินว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 125,000 ล้านบาท
และเมื่อถาม รศ.ดร.ธนวรรธน์ ถึงทิศทางเศรษฐกิจไตรมาส 2 โดยเฉพาะการจับจ่ายใช้สอยในห้วงจังหวะการหาเสียงเลือกตั้งกับการใช้จ่ายในรูปแบบสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2566 ผ่านบัตรประจำตัวประชาชน จะเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้น่าสนใจ
รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การเลือกตั้งที่กำลังเกิดขึ้น จะเป็นตัวแปรสำคัญ ในการสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เริ่มตั้งแต่เม็ดเงินจากการเลือกตั้งในช่วงการรณรงค์หาเสียง การจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพหากสามารถจัดตั้งได้โดยไม่มีการเมืองนอกสภา เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว ได้ที่ร้อยละ 3-3.5 ขึ้นอยู่กับปัจจัยสถานการณ์การเมืองเป็นหลัก เพราะในช่วงไตรมาสที่ 3-4 อาจเกิดช่วงสุญญากาศทางเศรษฐกิจได้ หากจัดตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่น เนื่องจากการพิจารณางบประมาณจะล่าช้า
และนี่ก็เป็นมุมมองเศรษฐกิจในห้วงจังหวะ “สงกรานต์” ที่เชื่อมโยงกับ “บัตรคนจน” และ “การเลือกตั้ง” ที่ช่วยขับเคลื่อนจีดีพีไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews