อาวุธหนัก”ยุบพรรค”เคยเป็นไม้ตายของฝั่งผู้มีอำนาจ ดังที่เคยปรากฏมาแล้วหลายกรณี ทั้งยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคอนาคตใหม่ และพรรคอื่น
ซึ่งแน่นอนว่าในสงครามเลือกตั้งปี2566 นี้ กลยุทธ ยุบพรรรคปฏิปักษ์ ที่เหมือนปีศาจร้ายกำลังคืบคลานหลอกหลอนกันอีกครั้ง เพราะทั้งค่ายเพื่อไทย ค่ายก้าวไกล และค่ายพลังประชารัฐ ล้วนแต่ถูกส่งเข้าสู่กระบวนการยุบพรรค ในการพิจารณาของ กกต.ผู้คุมกฎ ที่ถูกวิพากษ์กันหนักหน่วง
ขณะที่ ประมุข กกต. นายอิทธิพร บุญประคอง ระบุว่ากกต.กำลังพิจารณานโยบายหาเสียง 70 พรรคการเมือง เตรียมส่งเข้าที่ประชุม กกต.พิจารณาสัปดาห์หน้า ชี้ถ้าผลออกมานโยบายหาเสียงไม่ถูกต้อง ก็ถือว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา 73 (5) หลอกลวงให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง เป็นเหตุให้นำไปสู่การพิจารณายุบพรรคได้ตามกฎหมาย แต่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่า นโยบายหาเสียงที่ใช้เข้าข่ายความผิดหรือไม่
ฉะนั้นแล้ว สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น พาไปสำรวจมือกฎหมายของแต่ละค่าย เริ่มที่เพื่อไทย ที่โดดเด่นและเป็นถึงระดับ1ในแคนนิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย นั้นคือชัยเกษม นิติสิริ อายุ 74 ปี จบปริญญาตรีแผนกนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 จากจุฬาฯจบปริญญาโท L.L.M จากสหรัฐอเมริกา จบเนติบัณฑิตไทย เติบโตมาทางสายอัยการจนได้ขึ้นเป็นอัยการสูงสุด และยังเคยเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2556 นอกจากชัยเกษม แล้ว ค่ายเพื่อไทยยังมีอีกหนึ่งมือกฎหมาย นั้นคือ อาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช
พรรคต่อมาคือค่ายสีฟ้า ประชาธิปัตย์ ที่เคยอุดมไปด้วยนักกฎหมายแน่นพรรคไปหมด ช่วงหลังๆทยอยหนีจากไปหลายราย แต่ที่เหลือและเป็นสุดยอดฝีมือไม่มีใครเกินนายหัวชวน หลีกภัย วัย 84ปี จบนิติศาสตร์บัณฑิต ธรรมศาสตร์ ทำงานเป็นทนายความก่อนลุยการเมือง จนขึ้นสูงสุดประมุขฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 20 และยังเคยเป็นประธานรัฐสภาไทย ประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย
รองนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า 12ปี
ต่อกันที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หรือบิ๊กตุ๋ย อายุ64 ปี ปริญญาตรี นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย ปริญญาโท มหาวิทยาลัยทูเลน สหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้พิพากษาและข้าราชการตุลาการมาก่อน เข้าสู่แวดวงการเมือง เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเคยเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีลุงตู่ ก่อนจะเป็น หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 2
พรรคต่อมาคือพลังประชารัฐ มือกฎหมายคือ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค อายุ69 ปี จบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จบโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีบทบาทในการร้องเรียนแล้วประสบความสำเร็จหลายเรื่องเช่น กรณี อดีตนายฯยิ่งลักษณ์ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี จากกรณีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาสมช.ในขณะนั้น นอกจากนี้ ไพบูลย์ ยังเคยร้องเรียนกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติอีกด้วย
พรรคต่อมาคือ ไทยสร้างไทยของ คุณหญิงหน่อย ที่ได้มือกฎหมายชั้นเซียนอย่าง โภคิน พลกุล อายุ71 ปี จบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำเร็จเนติบัณฑิตไทย และสำเร็จการศึกษาปริญญาเอก กฎหมายมหาชน จากมหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส เคยรับราชการเป็นถึงรองประธานศาลปกครองสูงสุด ในรัฐบาลทักษิณ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเคยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย
ต่อที่ พรรคภูมิใจไทย บังซุบ ศุภชัย ใจสมุทร อายุ64 ปี ปริญญาตรีนิติศาสตร์ รามคำแหง ปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์เคยเป็น อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุดท้ายคือพรรคก้าวไกล ณัฐวุฒิ บัวประทุม อายุ45ปี รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายกฎหมาย ปริญญาโทนิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ
ต้องจับตาท่ามกลางปีศาจ”ยุบพรรค”หลอกหลอน มือกฎหมายชั้นเซียนเหล่านี้จะแก้เกมรับมือ และนำพรรคฝ่าวิฤกตไปได้หรือไม่?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews