มหากาพย์วิกฤตแบงก์สหรัฐยังยืดเยื้อ
ดูเหมือนวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐอาจจะยืดเยื้อและลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ 3 สถาบันการเงินสหรัฐอเมริกาได้ปิดตัวลง เนื่องจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB)
ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐก็ประสบปัญหาเดียวกัน โดยล่าสุดก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่าแพคเวสต์ แบงคอร์ป (PacWest Bancorp) อาจเป็นธนาคารรายต่อไปที่จะล้มละลาย ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคและธนาคารรายใหญ่ร่วงลงอย่างหนัก ประชาชนขาดความเชื่อมั่นและสะท้อนปัญหาการกำกับดูแลภาคธนาคารในสหรัฐฯที่อ่อนแอ
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้พูดคุยกับ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง โดย รศ.ดร.สมชาย ได้ให้ความเห็นว่า ปัญหาของธนาคารของสหรัฐอาจยังยืดเยื้อไม่จบ และก็ต้องติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด พร้อมมองว่าสถานการณ์ในขณะนี้ยังคงอ่อนไหว
“ยังยืดเยื้อยังไม่จบ เรื่องของซิลิคอนแวลลีย์ ตามมาด้วย 2-3 แบงก์ แล้วก็ลามไปสู่ที่ยุโรป เพราะฉะนั้นธนาคารพังตั้งแต่ตอนนั้น แต่ในระยะแรกเขายังหวังว่ามันจะฟื้นได้ เพราะว่ามันมีแบงก์ต่างๆ มันเข้าไปอุดรู ก็คือว่าเงินที่ถอนไป เขาก็เอาเงินที่คนมาฝาก ไปฝากไว้ แต่ก็ปรากฏว่ายังแก้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นในที่สุดรัฐบาลก็หาทางแก้ เพื่อที่ไม่ให้มันถูกกระทบกับผู้ที่ฝากเงิน ก็เลยให้แบงก์ใหญ่เทคโอเวอร์ไป เป็นการคลี่คลายไปส่วนหนึ่ง เพียงแต่ว่าปัญหาด้านจิตวิทยามันก็ยังไม่ได้จบแค่นี้ เพราะว่าแบงก์เล็กๆ หรือแบงก์ในอเมริกา
คนที่ฝากยังมีความรู้สึกกังวลอยู่ ขณะนี้สถานการณ์ยังมีความอ่อนไหวในเรื่องของจิตวิทยาในอเมริกาอยู่” ทั้งนี้เมื่อถามว่าสถานการณ์ปัญหาของธนาคารของสหรัฐจะคลี่คลายลงเมื่อใด รศ.ดร.สมชาย กล่าวว่า ปัจจุบันมีวิกฤตปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เดี๋ยวก็มีเรื่องใหม่เกิดขึ้นได้อีก ทุกอย่างอยู่ที่การแก้ปัญหา แต่เราก็มีเครื่องมือการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น สามารถที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้มันบานปลายจนเกินไป และการเกิดวิกฤตครั้งนี้ก็ถือว่าผลกระทบน้อยกว่าสองเดือนที่ผ่านมา
“พูดจริงๆ แล้วต้องยอมรับว่าสถานการณ์ โลกมันเป็นโลกใบเดียวโลกาภิวัตน์ เดี๋ยวมันจะมีเรื่องนู้นเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าก็ต้องขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหา ก็ต้องยอมรับว่ามันมีเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาที่ค่อนข้างดีขึ้น อย่างในกรณีที่เราเห็นในยุโรป และอเมริกา ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้มันบานปลายจนเกินไป แก้ปัญหาตัวใหญ่มากเลย เรื่องซิลิคอนแวลลีย์ เรื่องสวิสแบงก์ หรืออะไรต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่าโลกมันแบบนี้ เดี๋ยวมันจะมีเรื่องตื่นเต้น แต่ก็มีเครื่องมือในการแก้ไข เพียงแต่ขนาดนี้ก็ต้องยอมรับว่า มันเกิดระลอกสองขึ้นมานิดนึง ถือว่าผลกระทบมันน้อยกว่าสองเดือนที่แล้ว”
จากนี้ต่อไปยังต้องติดตามสถานการณ์ปัญหาของธนาคารของสหรัฐอย่างใกล้ชิดว่าจะยืดเยื้อยาวนานถึงเมื่อใด จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และเศรษฐกิจโลกมากน้อยแค่ไหน และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อีกครั้งเมื่อใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews