Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เลือกตั้งล่วงหน้าคึกคัก เงินสะพัด แห่ใช้สิทธิ

“7 พฤษภาคม 2566” วันเลือกตั้งล่วงหน้า และเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งใหญ่ ที่เดิมพันด้วย “ศักดิ์ศรี” จะเริ่มต้นขึ้น

 

 

งานนี้ทุกพรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียง จัดหนัก จัดเต็ม ถึงลูก ถึงคน กับนโยบายประชานิยมกู้เศรษฐกิจ พลิกฟื้นประเทศ ที่ล้วนแล้วมีหนี้สาธารณะค้ำคอ

 

โดย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากการทำโพลล์ การจัดดีเบตของภาคเอกชนรวมถึงการปราศรัยใหญ่ของพรรคการเมือง ขณะที่กิจกรรมรณรงค์หาเสียงต่างๆ ก็ทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจรวม 5 หมื่นล้านบาท

 

“ผมคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ แน่นอนครับว่า มีความสนใจกันเยอะมาก ตั้งแต่ในแง่ของการจัดดีเบต ในแง่ของการติดตามข้อมูลข่าวสาร การทำโพลล์ เราจะเห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นสโลแกนและเป็นภาพที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ แน่นอนว่าทางพรรคฝ่ายค้านเดิมก็มีความประสงค์ที่จะเป็นพรรครัฐบาลแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นเพื่อไทยและก้าวไกล และท้ายที่สุดคือใช้แคมเปญแลนด์สไลค์ แต่ขณะเดียวกันในฝากฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็มีความมุ่งมั่นรักษาฐานคะแนนเสียง

 

เพราะฉะนั้นแน่นอนการรณรงค์หาเสียง แผ่นป้ายโฆษณา ตลอดจนกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ก็มีความคึกคักอย่างสูง ดังนั้นแน่นอนว่าวงเงินที่ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินไว้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดจนถึงวันเลือกตั้ง 4-5 หมื่นล้านบาท เราคิดว่าน่าจะยังเป็นได้สูง เพราะว่าถ้าเรารวมเม็ดเงินของภาคเอกชนที่จัดดีเบต การถ่ายทอด การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในฝั่งเอกชนที่ไม่รวมกับพรรคการเมืองคิดว่าน่าจะมีการใช้เม็ดเงินในระดับสูงหลายพันล้าน”

 

นอกจากนี้ รศ.ดร.ธนวรรธน์ ยังได้ประเมินภาพรวมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าและวันจริง 14 พฤษภาคมด้วยว่า ประชาชนจะมาใช้สิทธิคึกคัก

 

“การเลือกตั้งครั้งนี้ ก็คือ เป็นการเลือกตั้งที่เน้นเรื่องของการได้คะแนนเสียงเป็นสำคัญ ดังนั้นเชื่อว่าการเลือกตั้งจะมีความคึกคัก คนน่าจะไปใช้สิทธิกันเยอะ เพราะว่ากลัวพรรคการเมืองที่ตัวเองชื่นชอบจะเพลี่ยงพล้ำและเสียคะแนนเสียงไป เพราะฉะนั้นแน่นอนว่า กิจกรรมของการเลือกตั้งล่วงหน้าก็น่าจะมีความคึกคัก และวันเลือกตั้งก็น่าจะมีผู้เข้ามาใช้สิทธิกันเยอะครับ”

 

ขณะที่ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า นโยบายต่างๆ ที่พรรคการเมืองหาเสียง ส่วนใหญ่เป็นการเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจพร้อมกับใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจให้จุดติดแบบจัดเต็ม อีกทั้งสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index มีแนวโน้มที่ดีในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งในอดีตก่อนการเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 2.09% ด้วยความน่าจะเป็น 80% และหลังเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ มีโอกาสปรับตัวขึ้น 3.8% ด้วยความน่าจะเป็น 80% เช่นกัน พร้อมกับ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาสนับสนุนเสริมอีกด้วย

 

จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามทีเด็ดของพรรคการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ว่ากันว่าจะเข้มข้น ดุเด็ด เผ็ดมันส์ นั่นเพราะทุกการขับเคลื่อนย่อมหมายถึงชัยชนะที่ใกล้เข้ามานั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube