100 เมตรสุดท้ายก่อนศึกชิงประเทศ เล่นกันหนัก ฟาดกันโหด ยิ่งแรง ยิ่งถูกถล่ม ขย่มขยี้บี้ให้จมดิน แต่จะสมหวังหรือไม่ต้องดูปกาศิตในมือประชาชน ยิ่งโดยเฉพาะพ่อส้ม พ่อหนุ่มทิม พิธา ขวัญใจโซเชียล ด้อมส้ม ที่เจอ 2 ดอกเหี้ยมๆ อย่าง ปมไทม์ไลน์”งานศพบิดา”ไล่เรื่อยมาถึงประเด็นถือหุ้นสื่อ ITV ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนฉ่ากระทะแตก
ด้วยหลายฝ่ายหวั่นระทึก ส่อซ้ำรอย “พ่อฟ้า ธนาธร” อดีตซุปตาร์โลกออนไลน์รุ่นแรกก่อนสละตำแหน่งให้พ่อส้มพิธาไป สำหรับประเด็นไทม์ไลน์”งานศพบิดา” งานนี้พีศรี-ศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเท้าบวม ไม่พลาดไปร้องกกต.กล่าวหาว่า การให้สัมภาษณ์ของ “พิธา” ดังกล่าว อาจเข้าข่ายจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอีกด้วยหรือไม่ ตามมาตรา 73 (5) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ซึ่งต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ส่วนปมพ่อส้มถือหุ้นสื่อ ITV นั้น แม้เจ้าตัวจะออกมาบอกว่าแล้วเป็นเรื่องของหุ้นจากมรดกในฐานะผู้จัดการมรดก แต่ทว่าอีกหนึ่งนักร้องขาประจำอย่างนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชี่อ พรรคพลังประชารัฐ กระโดดสอยสุดตัว ยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ตรวจสอบ พ่อส้ม มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV จำนวน 42,000 หุ้น
นอกจากนี้” เรืองไกร” ยังขยี้ต่อว่าแม้ “พิธา” จะระบุว่าหุ้นดังกล่าวไม่ใช่ของตนเองเป็นกองมรดก และตัวเองเป็นผู้จัดการเท่านั้น แต่อยากให้ดูรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) เขียนเพียงว่าผู้จะลงสมัคร ส.ส.ต้องไม่เป็นผู้ถือครองหุ้นสื่อเท่านั้น อีกทั้งเรืองไกรยังได้ไปตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของนายพิธาระหว่างดำรงตำแหน่ง ส.ส. ก็ไม่พบว่ามีการแจ้งหุ้นดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. จึงได้ไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบว่านายพิธาแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จหรือไม่ และแน่นอนว่าปมถือหุ้นสื่อของพ่อส้มกลายเป็นประเด็นสาธารณะที่มีการพูดถึงกันมากมาย
ทั้งนักกฎหมาย ทนาย ผู้พิากษา สว. อาจารย์มหาวิทยาลัย และนักการเมือง ต่างออกมาให้ความเห็นแตกต่างกันไปตามจริตของแต่ละคน ขณะเดียวกันก็เริ่มมีการโดยหินถามทางกันบ้างแล้วอย่าง ประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวชื่อดังฝั่งประชาธิปไตย ทวิตเตอร์ ว่า “ถ้า พิธาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเพราะกรณีถือหุ้น itv ติ่งส้มอยากให้ใครเป็นหัวหน้าพรรคแทนครับ? ”
ซึ่งกระแสโจตีพ่อส้มในช่วงนี้ ยิ่งเฉพาะปมหุ้นสื่อที่ร้องโดย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จากค่ายลุงป้อม นั้น ถูกมองทางการเมืองว่ารับงานมาจากค่ายเพื่อไทยหรือไม่อย่างไร เพราะอย่าลืมว่า เรืองไกรนั้นเคยเป็นคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยมาก่อน และเมื่อมองว่ากรณีพิธาโดยพิษหุ้นสื่อ ใครที่ได้ประโยชน์ มากที่สุด เพราะคะแนนจากก้าวไกล ย่อมไหลไปเพื่อไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้ อีกทั้งการที่ทักษิณออกมาย้ำเรื่องกลับบ้านช่วงก่อนเลือกตั้งนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
เมื่อดูเส้นทางพิธาละม้ายคล้ายธนาธร ยิ่งเพราะครั้งหนึ่ง ธนาธร พ่อของฟ้า เคยฟีเวอร์อย่างหนัก ไปที่ไหนที่นั่นแตกคนแห่ชื่นชมล้นหลาม มีสาวกเป็นของตนเองมากมาย เคยเป็นคู่ชิงโหวตนายกฯในสภามาแล้ว ซึ่งไม่ต่างกับพิธา พ่อส้มในขณะนี้ กราฟชีวิตพุ่งสุดขีด ด้อมส้มเกลื่อนเมือง แต่กำลังจะสะดุดกับกับดักมรณะ อย่างการถือหุ้นสื่อ เหมือนกับที่ พ่อฟ้า โดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าถือหุ้นสื่อก่อนการเลือกตั้ง จึงตัดสินให้พ้นจากการเป็นส.ส. เมื่อ 20 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ฉะนั้นแล้วจึงน่าจับตาว่า วิบากกรรมหุ้นสื่อที่เคยสังหารการเมืองพ่อฟ้าและอนาคตใหม่มาแล้ว จะวนกลับมาหลอนหลอกพ่อส้ม และก้าวไกล อีกหรือไม่?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews