ยังคงเป็นที่จับตามองสำหรับรัฐบาลใหม่ และผู้นำการจัดตั้งอย่างพรรคก้าวไกลที่ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนอย่างท่วมท้น โดยล่าสุดนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก็ได้จับมือกับ 8 พรรคการเมือง แถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้วเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา มี ส.ส.รวมกันทั้งสิ้น 313 คน
ซึ่งความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลนั้นก็ทำให้ตลาดหุ้นคลายความกังวลเล็กน้อย หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนมีการเทขายอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังต้องติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องใช้เสียงใน 2 สภารวมกันมากกว่า 376 เสียงกันต่อไปว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
โดย ดร.เชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้กล่าวกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงมุมมองต่อรัฐบาลชุดใหม่ว่า ยังคงต้องติดตามการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ไปตามกฎหมายของการเลือกตั้ง รอการรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจาก กกต. และการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ต้องติดตาม
“ณ จุดนี้คงต้องรอดูเป็นตามขั้นตอนกฎหมายเลือกตั้ง แล้วก็ในช่วงถัดไปคงเป็นการรับผลการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ก็ดูว่าคะแนนเสียงหลังกานรับรองแล้ว มันเปลี่ยนไปจากที่เห็นในเบื้องต้น แล้วกระทบการจับขั้วอะไรหรือเปล่า เสร็จแล้วก็จะมีการประชุมสภาเลือกประธานสภา
เสร็จแล้วก็จะมีการประชุมร่วมระหว่างวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎร เลือกนายกรัฐมนตรี อันนี้ก็น่าจะเป็นจุดสองจุด ที่น่าจะเป็นจุดสำคัญ โดยเฉพาะ การประชุมร่วม ส.ว. ส.ส. ก็ต้องไปถึงจุดนั้น เพราะตอนนี้มันยังอ่านยาก มีความไม่แน่นอน ก็ต้องรอไปถึงจุดนั้น ซึ่งก็ประมาณเดือนสิงหาคม ที่กว่าความชัดเจนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้น”
และเมื่อถามถึงความกังวลใจของนักลงทุนที่มีต่อนโยบายและรัฐบาลชุดใหม่นั้น ดร.เชาว์ กล่าวว่า เป็นความกังวลใจของนักลงทุนมากกว่า ซึ่งก็อาจจะตีความไปเอง จากนโยบายต่างๆ ที่พรรคก้าวไกลเคยหาเสียงไว้ มาเชื่อมโยง โดยเหตุการณ์นั้นยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งความกังวลของตลาดทุน นักลงทุน ก็ทำการซื้อขายก่อนเพื่อลดความเสี่ยง ก็เป็นเรื่องปกติ ธรรมดาของตลาดทุน
“อันนี้เป็นนักลงทุนกังวลมากกว่า ก็คนที่ขาย นักลงทุน เขาก็ตีความของเขากันไปเอง เรื่องมันยังไม่เกิด อาจจะโยงนโยบายที่พรรคก้าวไกลเคยหาเสียงไว้อะไรอย่างนี้ เอามาโยงกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นถ้าเขามาเป็นรัฐบาล ตลาดทุนเวลากังวลวิตกอะไร นักลงทุนเวลาเขากังวล เขาก็ขายก่อน อันนี้เป็นเรื่องปกติ”
อย่างไรก็ตามคงต้องจับตากันต่อไปสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ครั้งนี้ เพราะยิ่งจัดตั้งได้เร็วก็ยิ่งส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจและธุรกิจ ความชัดเจนจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews