ยังคงเป็นที่จับตาของภาคเอกชนและธุรกิจต่างๆ สำหรับการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังมีการจับขั้วกันอย่างลงตัว นำโดยพรรคก้าวไกล ซึ่งมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยพรรคร่วมอย่าง พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง
ที่จับมือกัน มี ส.ส. 313 เสียง และขั้นตอนที่ต้องติดตามต่อก็คือ กระบวนการของ กกต.ในการรับรอง ส.ส. การเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภา ก่อนนำไปสู่การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าสู่กระบวนการประชุมร่วมรัฐสภา ของ 2 สภาที่รวม สว. 250 เพื่อโหวตนายกฯคนที่ 30 ต่อไป ซึ่งหากจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ตามกรอบเวลาก็จะส่งผลดีต่อ ภาคเศรษฐกิจ และธุรกิจเป็นอย่างมาก
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้พูดคุยกับ ดร.เชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งดร.เชาว์ ให้ความเห็นว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดนั้น อาจส่งผลให้เกิดข้อสงสัย และความกังวลต่อนักลงทุนได้
“มันก็กระทบ เพราะว่าความเชื่อมั่น ก็จะมีคำถามเกิดขึ้น ถ้าการโหวตรอบแรกไม่ผ่าน หรือดีเลย์การโหวตออกไป ซึ่งมันก็จะมีข้อสงสัยกัน ก็มีความไม่แน่นอน พอมีความไม่แน่นอนความไม่มั่นใจนั้นจะปรากฏ หรือจะถูกสะท้อนมา ดัชนีหุ้น หรืออะไรก็แล้วแต่ มีปัจจัยหลายประการที่ต้องติดตามมาก แต่ว่าตอนนี้ก็ค่อยๆ ย่อยลงไป ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แล้วก็จะค่อยๆ รับรู้ประเด็นเหล่านั้นไปเรื่อยๆ แล้วดูบรรยากาศ กระแสต่างๆ ทั้งในและนอกสภาด้วย แล้วก็เอามาประกอบกันว่าอันนี้มันบวก หรือมันลบเพียงใด ตอนนี้ก็เป็นแค่การมีคำถาม มีความกังวลหรืออาจจะคาดเดากันไป แต่แล้วมันก็จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นจากจุดนี้เป็นลำดับ”
ทั้งนี้ ดร.เชาว์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โจทย์ตอนนี้คือควรจะมีรัฐบาลก่อน ภายในกรอบเวลาที่กำหนด เพราะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ และนักลงทุนเป็นอย่างมาก หากล่าช้าไปเกินกรอบกำหนดไปอาจเกิดผลเสียทางเศรษฐกิจได้
“ผมว่าตอนนี้โจทย์มันคือควรจะมีรัฐบาล อย่างที่สภาอุตสาหกรรมพูด การไม่มีรัฐบาลใหม่ในเวลาที่มันควรจะมี จะมีผลเสียต่อความเชื่อมั่น และต่อเศรษฐกิจของประเทศ ฉะนั้นผมว่าอันนี้เป็นอันแรกเลย นี่ไม่ได้หมายความว่าจะไปกดดันให้ใครต้อง ยกมือให้ใคร แต่ว่านี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องสำคัญ ในส่วนที่ว่ารัฐบาลใหม่จะทำอะไร ผมว่าให้มีรัฐบาลก่อน ผมก็สะท้อนมุมของสภาอุตสาหกรรมที่พูดในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของธุรกิจและนักลงทุน อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายควรตระหนัก ว่าถ้าตรงนี้หลุดไป ผลเสียทางเศรษฐกิจมันจะเกิดขึ้น”
จากนี้ต่อไปต้องติดตามอย่างใกล้ถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะเป็นไปตามกรอบเวลาได้หรือไม่ เพราะเศรษฐกิจ ธุรกิจ และนักลงทุน ต่างยังคงรอความชัดเจน เพื่อขับเคลื่อนอย่างมั่นใจได้ต่อไป หาล่าช้าหรือคลาดเคลื่อนไปจากที่ควรจะเป็น อาจส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews