หลังเลือกตั้งเพียง 2 สัปดาห์ พรรคร่วมรัฐบาลก็ส่อแววมีปัญหา แม้จะทำ MOU ร่วมกัน และทั้ง 8 พรรค
หลังเลือกตั้งเพียง 2 สัปดาห์ พรรคร่วมรัฐบาลก็ส่อแววมีปัญหา แม้จะทำ MOU ร่วมกัน และทั้ง 8 พรรค พร้อมสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แต่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ยังคงเป็นปมความขัดแย้งระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ที่ยังหาทางออกไม่ได้ ว่าจะให้พรรคไหน วันนี้ ทีมข่าว INN ลงพื้นที่สำรวจความเห็นประชาชน เพื่อยึดหลักประชาธิปไตย และเสียงสะท้อนจากภาคประชาชนว่ามีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร
กลายเป็นละครแนวซีรีย์การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคที่มีคะแนนเสียงอันดับ 1 คือพรรคก้าวไกล ภายใต้การนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่สามารถรวมรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ 313 เสียง และร่วมกันลงนาม MOU 23 ข้อ ได้สำเร็จ อีกทั้ง 8 พรรคร่วมยังช่วยกันเข็นให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ แต่เส้นทางสู่รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด นอกจากด่าน สว. ที่ต้องตั้งทีมเจรจา เดินสายพบปะ ชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อให้ช่วยโหวตสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ศึกภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง กำลังคุกรุ่น
พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ อันทรงเกียรติ กับตำแหน่งประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เกิดการแย่งกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้ง 2 พรรค มีคะแนนเสียงเลือกตั้งห่างกันหลักสิบ การช่วงชิงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติเกิดขึ้น จนหลายฝ่ายกังวลถึงผลกระทบในการจัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางประชาชนที่กำลังรอคอยอย่างมีความหวังที่จะให้รัฐบาลก้าวไกลเข้ามาบริหารโดยเร็ว
นี่คือเสียงสะท้อนจากประชาชนที่พบว่า ส่วนใหญ่ อยากให้ทั้งสองพรรคการเมืองหันหน้าคุยกัน เพื่อหาทางออก โดยตำแหน่งประธานสภาจะมาจากพรรคไหนก็ได้ เพราะเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่มาจากฉันทามติของประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งสำคัญต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การทุจริตรคอรัปชั่น รวมถึงยาเสพติด ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ขอแสดงความเห็นทางการเมือง โดยคุณวารินทิพย์ แสดงความเป็นห่วงถึงการเลือกประธานสภาฯ กลัวว่าจะเกิดความขัดแย้ง เพราะต่างฝ่ายต่างตั้งแง่ แต่ใครเป็นก็ได้ ขอให้มองการบริหารบ้านเมืองแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นที่ตั้ง
คุณพล อาชีพวินรับจ้าง มองว่าอยากให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าพูดคุยกันเพื่อหาทางออก เพราะประชาชนได้มอบฉันทามติให้แล้วในการจัดตั้งรัฐบาล ใครจะเป็นก็ได้ ถ้าคนอายุเยอะ ก็จะมีประสบการณ์ส่วนคนอายุน้อยกว่า ก็จะเป็นคนรุ่นใหม่อยากให้ทั้ง 2 พรรคช่วยกันซัพพอร์ต เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ขณะคุณลุงดำ อาชีพขายลอตเตอร์รี่ บอกว่า ควรคุยให้จบกันภัยในก่อนเพื่อร่วมกันหาทางออก พร้อมมองว่าใครจะเป็นก็ได้ ไม่ว่าจะจากพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ได้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยขอฝากรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง คอรัปชั่น และยาเสพติด
ด้านป้าสมศรี แม่ค้าขายอาหารถุง บอกว่า ใครเป็นก็ได้ หันหน้าคุยกันก่อน พร้อมฝากไปถึงรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้องทำเศรษฐกิจให้ดี ส่วนคุณเกด แม่ค้าขายข้าวเหนียว รวมถึง คุณป้าธิดา อาชีพแม่บ้าน บอกว่า ไม่ขอแสดงความเห็นทางการเมืองขอเดินทางสายกลาง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของทั้งสองพรรคการเมืองว่าจะมีทางออกในเรื่องนี้อย่างไร เพื่อเดินหน้าประเทศจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
