สถานการณ์การส่งออกในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 1-2 ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ล่าสุด ได้เรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ 58 แห่ง 43 ประเทศทั่วโลก
หารือแผนผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง และขับเคลื่อนแบบเจาะลึกเป็นรายภูมิภาค ดันการส่งออกให้เติบโตตามเป้าหมาย โดยเป็นการประชุมแบบพบหน้าครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์ ทิศทางการส่งออกช่วงครึ่งปีหลัง และปรับแผนการทำงาน เพื่อขับเคลื่อนการส่งออก ท่ามกลางปัจจัยท้าทายที่กดดัน โดยเฉพาะปัญหาหลัก คือเรื่องของค่าเงินบาทที่ผันผวน รวมไปถึงปัจจัยอื่นทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สงครามการค้า และปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์
โดยได้ข้อสรุปแผน 7 ภูมิภาค พร้อมกิจกรรมรวม 350 กิจกรรม ซึ่งคาดการณ์ว่า จะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ รวมกว่า 550 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 19,000 ล้านบาท โดยกำหนดเป้าหมายการส่งออกแต่ละภูมิภาค ให้ชัดเจนขึ้น ได้แก่ ตะวันออกกลางและแอฟริกา เป้าหมาย ขยายตัวร้อยละ 20 มูลค่า 5,380 ล้านบาท / เอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย เป้าหมายขยายตัวร้อยละ 2.2 มูลค่า 4,163 ล้านบาท
/ จีน เป้าหมายขยายตัวร้อยละ 1 และฮ่องกง ขยายตัวร้อยละ 2 คิดเป็นมูลค่ารวม 3,238 ล้านบาท / ยุโรป เป้าหมายขยายตัวร้อยละ 1 มูลค่า 2,450 ล้านบาท / อเมริกา เป้าหมายขยายตัวร้อยละ 4.5 และลาตินอเมริกา เป้าหมายขยายตัวร้อยละ 4 คิดเป็นมูลค่ารวม 2,380 ล้านบาท / เอเชียใต้ เป้าหมายขยายตัวร้อยละ 10 มูลค่า 980 ล้านบาท และอาเซียน เป้าหมายขยายตัว 6.6 มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท
โดยยังคงเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ รักษาตลาดเดิม และฟื้นฟูตลาดเก่า ทั้งการเร่งจัดคณะผู้แทนการค้าเพื่อขยายตลาดศักยภาพ / การส่งเสริมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน / การจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์ / การผลักดันการส่งออกสินค้า BCG และสินค้านวัตกรรมใหม่ การส่งเสริมธุรกิจบริการมูลค่าสูง โดยเฉพาะดิจิทัลคอนเทนต์ / ร้านอาหาร Thai Select และการปูพรมเจาะตลาดเมืองรอง ในอาเซียน สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
ซึ่งจะเป็นการรักษาระดับการส่งออกของไทยในปีนี้ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 1-2 หรือ คิดเป็นมูลค่า 290,300 – 293,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ย้ำว่า แม้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. จะคาดการณ์ว่าการส่งออกในปีนี้จะไม่ขยายตัว หรือ อยู่ในกรอบ 0 – ติดลบ 1 เพราะยอดส่งออกชะลอตัวใน 2 ไตรมาสแรก เนื่องจากแต่ละประเทศมีสต๊อกสินค้าจำนวนมากหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย แต่เชื่อว่าในไตรมาสที่ 3 และ 4 คำสั่งซื้อจะกลับมา และหากเงินบาทอ่อนค่า ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดี ก็จะทำให้ตัวเลขการส่งออกในปีนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ได้
และเชื่อว่าทุกฝ่ายคงยื้อกันเต็มที่จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมีเจ้ากระทรวงพาณิชย์เข้ามาบริหารจัดการสถานการณ์ผลักดันการส่งออกอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้การส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ นอกเหนือจากภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ที่มั่นใจว่าอนาคตหลังจากนี้จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews