นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ในฐานะผู้ร้อง เดินทางมายื่นคำร้องต่อ อัยการสูงสุด ให้พิจารณาดำเนินการ เกี่ยวกับกรณีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่เดินหน้า แก้ไข ประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 112
นายธีรยุทธ กล่าวว่า ในวันนี้ตนเองเดินทางมาในฐานะประชาชนและร้องในนามส่วนตัว เพื่อขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการส่งคำร้อง ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลวินิจฉัยสั่งการให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและพรรคก้าวไกล เลิกกระทำการใด
เพื่อยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และให้เลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาและสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่กระทำอยู่และเลิกการกระทำดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรค 2 ดังที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีแนวบรรทัดฐานไว้ในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 19/2564
นายธีรยุทธ ยัง กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อมีผู้ร้องเสนอ เรื่อง ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยเบื้องต้น ว่าควรที่จะนำเรื่องหรือส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งตนเองได้ทำความร้อนมาแล้วมีพยานหลักฐานหลักฐาน 75 แผ่น ตัวคำร้อง 8 แผ่น รวม 83 แผ่น
หลังจากนี้มีระยะเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้คือ 15 วัน ที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาโดยเร็ว หลังจากนั้นหากพิจารณาไม่แล้วเสร็จหรือผลการพิจารณายังไม่ปรากฏชัดก็จะเป็นสิทธิ์ของผู้ร้อง ที่จะนำเสนอเรื่องนี้โดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้เมื่อนำเสนอโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วจากนั้นก็จะอยู่ในขั้นตอนพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผู้ร้องไม่อาจก้าวล่วงได้
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายธีรยุทธ เคยไปยื่นให้กับประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบพรรคก้าวไกลที่มีทั้งสมาชิกของพรรคและหัวหน้าพรรคได้ออกมาประกาศช่วงหาเสียงว่า มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 ว่า มีส่วนที่จะเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยยึดหลักคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยตัดสินคดีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกรณีที่ไปรองไว้ที่ กกต. ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งจะได้ติดตามเรื่องที่เคยร้องไว้ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews