ผ่านไปแล้ว 4 รอบ สำหรับการประชุมหารือ จัดตั้งรัฐบาลโดยมี “ก้าวไกล” เป็นแกนนำ ชู “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี 312 เสียง เป็นต้นทุนสำหรับการแสวงหาแนวร่วมจาก ส.ว. เพื่อให้ได้ 376 ในการโหวตของรัฐสภา
ซึ่งบรรยากาศ เบื้องหน้าที่ปรากฏ ชื่นมื่น ราบรื่นไปเสียทุกอย่าง แต่ไม่พบความชัดเจน ถึงปัญหา ตำแหน่งประธานสภา ต้นตอของความตึงเครียดก่อนหน้านี้ ที่รุนแรงถึงขั้นเอฟซีของอีกพรรคเสนอให้ถอนตัว ก็มีเพียงคำพูดหล่อๆของหัวหน้า 2 พรรค ว่าจะต้องคุยกัน
โดยตัดเรื่องโควตาออกไป ตามติดมาด้วย “บิ๊กเนม” อย่าง “จาตุรนต์ ฉายแสง” ที่ต่อมามีชื่อลุ้นตำแหน่งดังกล่าวด้วย ก็ให้ความเห็นว่า ประธานสภา จะมีเพียงชื่อเดียว 2 พรรคจะไม่มีทางเสนอชื่อแข่งกันในสภาแน่นอน ส่วนจะเป็นชื่อใคร คงต้องรอลุ้นกันอีกที หลัง กกต.รับรอง ส.ส.แล้ว ตามที่ “พิธา” ชี้แจงไว้
ฝั่งของก้าวไกล แม้จะยังไม่เคยมีการยืนยันเป็นทางการ แต่เคยมีโผหลุดมาแล้วครั้งหนึ่ง ชื่อของ “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” รองหัวหน้าพรรค ฝ่ายกฏหมายเป็นแคนดิเดตแรก โดยมี “ธีรัจชัย พันธุมาศ” เป็นอีกชื่อที่ถูกพูดถึง มีดีกรีจบกฏหมายมาเหมือนกัน และเป็น ส.ส.สมัยที่ 2 เหมือนกัน ต่างจากฝั่งเพื่อไทย มีการกลับรายชื่อไปมาหลายรอบ ตั้งแต่เริ่มกดดันจะเอาตำแหน่งนี้ แต่หลังประชุม 8 พรรคครั้งล่าสุด ที่มีภาพแจกมินิฮาร์ทกันแบบสุดฤทธิ์ ฝั่งเพื่อไทย ก็เหลือ 3 ชื่อในการลุ้นตำแหน่งนี้
นำโดย “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรค ที่มีดีกรี ส.ส. 6 สมัย และเป็นอดีตดาวสภา ส่วนรายที่ 2 มาแรงแซงขึ้นมาคือ “จาตุรนต์ ฉายแสง” อดีต ส.ส.หลายสมัย และรัฐมนตรีหลายกระทรวงมีประวัติการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาอย่างโชกโชน และปิดท้ายด้วยชื่อของ “สุชาติ ตันเจริญ” อดีต รองประธานสภา 2 สมัย ผู้อกหักจาก 4 ปีก่อน เพราะพลังประชารัฐเอาตำแหน่งประธานสภาไปให้ “ชวน หลีกภัย” ของประชาธิปัตย์ ในการดีลร่วมรัฐบาลแทน และหากเปรียบเทียบข้อดี ข้อด้อย กันแบบตัวต่อตัว ปอนต่อปอน แล้ว รายชื่อที่ยืนยันในเวลานี้ของเพื่อไทย และก้าวไกล ทั้ง 5 คน หากตัดเรื่องโควตาของพรรคออกไป 3 ชื่อของเพื่อไทย ดูดีกว่า 2 ชื่อของก้าวไกลหลายขุม ทั้งเรื่องวัยวุฒิ และประสบการณ์งานสภา
ส่วนท้ายที่สุดแล้วจะจบลงด้วยชื่อของใคร ก็คงเป็นเรื่องบนโต๊ะเจรจาของทั้ง 2 พรรค ที่มีปัจจัยภายนอกเรื่องคุณสมบัติ ของ”พิธา” ที่กลายเป็นประเด็นร้อนจากคำพูดของ “วิษณุ เครืองาม” ทนายหน้าหอของ”บิ๊กตู่”ออกมาส่งสัญญาณ รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในตอนท้าย ชื่อของประธานสภา คือ “ชลน่าน” และชื่อของนายกฯ คือ “พิธา” ก็คงเป็นอะไรที่ทุกฝ่ายพอใจ แต่หากมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ตำแหน่งของทั้ง 2 พรรค ก็คงสลับกันได้แบบวินๆ เช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews