Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“วิโรจน์” หอบหลักฐาน “ส่วย” มอบจเรตำรวจ

ปัญหาส่วยที่มีอย่างยาวนานกำลังถูกจับตามองว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหาหรือไม่ หลังจากมีการแฉข้อมูลเรื่องส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก และโยงไปอีกหลายๆ

 

 

 

ล่าสุด นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับส่วยรถบรรทุกมามอบให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติเพื่อตรวจสอบและเอาผิดไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมเปิดเผยว่า เอกสารที่รวบรวมมาวันนี้ มีข้อมูลเบาะแสเบื้องต้นที่รวบรวมมาจากพลเมืองดี ร่วมกับสหพันธ์การขนส่งฯ รวบรวมมาด้วย

 

 

ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ ได้รับการประสานงานที่ดีจากทั้งจเรตำรวจและตำรวจสอบสวนกลาง ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเบาะแสปลายทาง การสอบสวนขยายผล ต้องให้ตำรวจดำเนินการ เชื่อว่าทำได้ดีกว่าและตำรวจคงมีข้อมูลไปไกลแล้ว แต่วันนี้นำข้อมูลมาให้เพื่อทวนสอบข้อมูลว่าครบถ้วนตรงกันหรือไม่

 

 

โดยหวังว่าการหาผลประโยชน์หรือเรียกรับผลประโยชน์กลั่นแกล้งผู้ประกอบการที่สุจริตจะต้องทุเลาเบาบางหรือหมดไป และหวังว่านอกจากส่วยสติกเกอร์แล้ว ปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์อื่น ๆ เช่น โรงโม่หิน บ่อดิน บ่อทราย ผู้ค้าขายหินทราย ซึ่งสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมายก็จะต้องถูกดำเนินคดี และยึดใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน(ร.ง.4)

 

 

ส่วนการค้าสำนวนของพนักงานสอบสวนบางคน ที่ทำสำนวนเรียกรับผลประโยชน์ เช่น รถบรรทุกบางคัน บรรทุกน้ำหนักเกินเพียง 100-200 กิโลกรัมวิญญูชนทั่วไปคงเข้าใจได้ว่าไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย เพราะน้ำหนักจะเกินแต่ละครั้ง ต้องเกินเป็นตัน แต่พนักงานสอบสวนบางคน เอาส่วนนี้ใส่ไว้ในสำนวนเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ และสร้างสัญญาเช่าเท็จ จากคนขับรถ เปลี่ยนเป็นคนเช่ารถ เพื่อให้รถไม่ต้องถูกยึด

 

 

ไม่เพียงแค่ตำรวจเท่านั้น แต่เรื่องนี้ยังพัวพันไปถึงอัยการบางคนเช่น การที่คดีความไปถึงศาลชั้นต้น พิพากษาโทษปรับ แต่อัยการยังยื่นอุทธรณ์เพื่อให้รถโดนยึด กลับกัน บางกลุ่มบรรทุกเกินเป็นตัน ก็มีอภินิหารให้โดนเพียงลหุโทษได้

 

 

ด้าน นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาชิกของสหพันธ์ฯได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงหรือ MOUสาระสำคัญระบุว่า จะไม่กระทำผิดกฎหมาย หากสมาชิกทำผิด จะขับไล่ออกจากองค์กรทันที ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าสหพันธ์ฯ สูญเสียผลประโยชน์เพราะผู้ประกอบการบางรายจึงออกมาเคลื่อนไหวนั้น

 

 

ยืนยันว่าการออกมาเรียกร้องเปิดโปงครั้งนี้ ไม่มีนัยใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมี MOU ว่า จะไม่กระทำผิดกฎหมาย และตำรวจรับปากจะทำงานอย่างเต็มที่และลงไปจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง พร้อมระบุ ขณะนี้สหพันธ์ฯ มีสมาชิกอยู่มากกว่า 400,000 ราย แต่เป็นเพียง 1 ใน 3 ของรถบรรทุกทั้งหมดของประเทศไทย ในจำนวน 1.5 ล้านคัน การที่ผู้ประกอบการบางรายไม่เข้าร่วมสมาชิก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ MOU ที่จะกระทำผิดกฎหมายไม่ได้ แต่บางรายก็ต้องจ่ายผลประโยชน์เพื่อการแข่งขันกันทางธุรกิจ

 

 

 

ด้าน พล.ต.อ.วิสณุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จเรตำรวจและกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมีคณะทำงานที่ร่วมกันตรวจสอบยืนยันไม่ว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวโยงไปถึงข้าราชการระดับใด หรือใครก็ตามที่ข้อมูลพาดพิงไปเกี่ยวข้อง หากกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเรื่องนี้ไม่เพียงแค่ตำรวจทางหลวงเท่านั้น

 

 

หากข้อมูลไปถึงหน่วยงานท้องถิ่นหรือหน่วยงานใดก็ต้องดำเนินการ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีไฟไหม้ฟางแน่นอน ส่วนผู้ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องได้รับการคุ้มครอง ขณะนี้ตั้งกรอบระยะเวลาไว้ 15 วัน จะต้องมีความชัดเจน

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตากันอย่างใกล้ชิด สำหรับการแก้ไขปัญหาส่วยดังกล่าว โดยเฉพาะการเอาผิดกับข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการที่รักษาราชการแทนผู้บังคับตำรวจทางหลวง เตรียมจะมีคำสั่งย้ายตำรวจทางหลวงอย่างน้อย 15 ราย ในวันนี้ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube