จับสัญญาณเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจจีน ในห้วงจังหวะรอยต่อที่ประเทศไทยรอรัฐบาลใหม่ นั่นเพราะประเทศไทยต้องพึ่งพิงการส่งออก และการท่องเที่ยวเป็นหลัก
ทั้งนี้ การกลับมาเปิดประเทศจีนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ทั่วโลกเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง แต่นับตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นมา เศรษฐกิจจีนกลับไม่ได้เร่งตัวตามคาด อีกทั้งมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐยังไม่แรงพอ บวกกับมีปัญหาอีกหลายอย่างที่รออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาฯ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ธนาคารใหญ่ของโลกต่างปรับลดประมาณการ GDP จีนในปีนี้ลง อาทิ Goldman Sachs คาดจากโต 6%YoY เหลือ 5.4%YoY
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่แผ่วลง เชื่อว่าจะเป็นแรงผลักสำคัญให้รัฐบาลจีนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในครึ่งปีหลัง 2566 ซึ่งนับตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ยังเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่ม Demand ผ่านนโยบายการเงินจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ อีกทั้งล่าสุดธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีและ 5 ปี ลง 0.10% ตามคาด สู่ระดับ 3.55% และ 4.2% ตามลำดับ โดยดำเนินการครั้งแรกในรอบ 10 เดือน
ทั้งนี้ ดร.เชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เศรษฐกิจจีนมีสัญญาณการชะลอตัวลง เห็นได้จากตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับลดลง 2 เดือนติดต่อกัน ดังนั้นจากนี้ไปเราจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่จะทยอยออกมามากขึ้น
“สัญญาณการชะลอตัว แล้วก็เห็นได้จากหลายๆส่วน รวมถึงเรื่องของเงินเฟ้อที่ลดลงมา 2 เดือนติดต่อกัน แล้วก็มีปัญหาเรื่องการว่างงาน โดยเฉพาะคนกลุ่มที่อายุไม่มาก ดังนั้นในภาพรวมก็อธิบายถึงสาเหตุที่ทางการจีน เราก็เห็นเค้าอัดฉีด มาตรการเร็วๆนี้ก็เพิ่งจะมีการประกาศลดดอกเบี้ย ทยอยลดดอกเบี้ย”
“ดร.เชาว์” กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจจีนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่การค้า การท่องเที่ยว ดังนั้นจึงต้องจับจาสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ลิด
“ส่วนกังวลต่อเศรษฐกิจไทยไหม ก็เค้าเป็นเศรษฐกิจอันดับ 2 แล้วก็อยู่ใกล้เรา ในแง่การค้า และการท่องเที่ยว ดังนั้นเหตุการณ์ในจีนก็คงมีความสำคัญมีน้ำหนัก มีนัยยะสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย แต่อย่างไรก็ดี คิดว่า ทางการจีนคงจะมีมาตรการออกมาอีก ดูเหมือนว่าทางนั้นเค้าก็ติดตามเหตุการณ์ แล้วก็ถ้าสัญญาณการชะลอตัวมากกว่าที่คาด เราก็คิดว่าเค้าคง อาจจะลดดอกเบี้ยลงอีก หรือมีมาตรการอย่างอื่น ยังต้องติดตามเป็นสถานการณ์ที่ยังต้องตามอยู่”และเมื่อถาม “ดร.เชาว์” ว่า หากเศรษฐกิจจีนโตชะลอ จะมีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยหรือไม่ คำตอบที่ได้ น่าสนใจ
” ตอนนี้อาจจะยังเร็วไปที่จะสรุปว่า จะไม่ได้เป้า เพราะว่าจากนี้จนถึงช่วงฤดูกาลซีซั่นยังพอมีเวลา เค้าน่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม แล้วก็ประมาณการที่ปรับกันมาก็ไม่ได้แย่มาก ตอนนี้เค้าลดประมาณการลงมา บางคนจาก 5% ปลายๆ มา 5%ต้นๆ ผมก็คิดว่า ตัวเลขประมาณ 5 บวกลบ ก็เป็นตัวเลขที่อาจจะเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าที่เค้าตั้งเป้าหมายไว้ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวเลขที่แย่มาก ยังพอมีเวลา ก็คิดว่า ยังคงต้องตามอยู่อีกระยะนึง แล้วก็ดูว่า โนเมนตัมของเศรษฐกิจหลังการกระตุ้นไปแล้วดีขึ้น กระเตื้องขึ้นไหม
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อแน่ว่า เราจะได้เห็นมาตรการออกมามากขึ้น และจะเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ รวมถึงเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อของเศรษฐกิจโลกรวมถึงไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews