24 มิ.ย.เปลี่ยนการปกครอง สู่เปลี่ยนแปลงประเทศ
วันที่ 24 มิ.ย. เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ครบรอบเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จากวันนั้น จนถึงวันนี้ ก็ 91 ปีแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กลุ่มบุคคลผู้ก่อการ “คณะราษฏร์” ก็กลายเป็นตำนานของประเทศ กลายเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง แม้จะมีความลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด บางช่วงเวลาประชาธิปไตยก็รุ่งเรืองสุดขีด
บางห้วงเวลาก็ตกต่ำสุดขั้ว เพราะเกิดการปฏิวัติยึดอำนาจ ซึ่งในช่วงต้นของยุคประชาธิปไตย บุคคลทีเคยเป็นคณะราษฏร์ ก็กลายมาเป็นผู้นำปฏิวัติ ยึดอำนาจด้วย จนเกือบกลายเป็นวัฒนธธรรมการเมืองไที่ไม่เหมือนใคร
และไม่มีใครเหมือนของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดล้วนคืออดีต คือบทเรียน ที่ต้องจดจำ และสอนให้คนรุ่นต่อๆมา ต้องพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และป้องกันไม่ให้ เหตุการณ์เลวร้ายทางการเมืองและการปกครองกลับมาอีก
โดยสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือการพยายามเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ ที่หยิบยกเอาประวัติศาสตร์ เอาความตั้งใจแรกของกลุ่มคนเมื่อ 91 ปีก่อน มาปลุกกระแสประชาธิปไตย มาเชื่อมโยงเป็นเป้าหมาย เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศอีกครั้ง
หลังจากคณะรัฐประหารจำแลงบริหารประเทศมานาน 9 ปี และปี 2566 ในโอกาสรำลึก 91ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครองอีกครั้ง มีสัญญาณดี สัญญาณบวก สัญญาณแห่งประชาธิปไตย มากกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา
เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้ง ประชาธิปไตย ของประเทศ ได้ยกระดับไปอีกขั้นแล้ว ประชาชนตื่นรู้ และเข้าใจ แสดงออกผ่านการเลือกตั้งได้อย่างหมดจด ว่าต้องการอะไร ต้องการใครเข้ามาแก้ปัญหา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น จนกลายเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง
จากชัยชนะแบบหักปากกาเซียนของก้าวไกล เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสโลแกน “ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” ของพรรคก้าวไกล เพราะประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
แต่มาจนถึงวันครบรอบเปลี่ยนแปลงการปกครอง 1 เดือนกว่าๆ กับการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลผสม ซีกประชาธิปไตย 8 พรรค แม้จะดูเหมือนราบรื่น เพราะมีเสียงข้างมากแบบมโหฬาร แต่ในทางปฏิบัติ
ก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ตามที่แฟนคลับ เอฟซี ต้องการสักเท่าไหร่ เพราะกำลังติดหล่มกับตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ลูกพรรคของอีกแกนนำที่มีเสียงไม่ต่างกันมากยังเห็นแย้ง จึงต้องเร่งหาข้อสรุปให้ได้
ก่อนจะมีการเปิดสมัยประชุม เพราะหากเคลียร์ ไม่จบ โอกาสคืนชีพของอีกฝ่ายก็จะเริ่มขึ้นทันที คำประกาศของ”รังสิมันต์ โรม” ในโอกาสวันครบรอบ 91 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง ว่าภารกิจพรรคก้าวไกลคือ หยุดเผด็จการทำนาบนหลังคน ก็จะไร้ความหมาย ดังนั้น เพื่อรักษาความหวังของกองเชียร์ ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศ ตามเสียงที่ส่งออกมาผ่าน การเลือกตั้ง ก็หวังว่า ทั้งก้าวไกล และเพื่อไทย
จะตกลงกันได้ ในเรื่องตำแหน่ง เดินหน้าตั้งรัฐบาล เพื่อสานต่อภาระกิจที่ประชาชนคาดหวัง อยากเห็นประเทศเปลี่ยงแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประสบความสำเร็จในเร็ววัน…
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews