การเมืองไทยทุกยุคทุกสมัย มักจะเห็นสมาชิกผู้แทนราษฎรไทย และสมาชิกวุฒิสภาหลายคนมาจากข้าราชการประจำ ส่วนใหญ่หลังเกษียณอายุราชการ
แล้วยังอยากทำประโยชน์ให้บ้านเมืองต่อ ก็ลงมาเล่นการเมืองเพื่อรับใช้ประชาชนต่อไป ซึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย 500 รายของปี2566 นี้ มี สส.ป้ายแดงใหม่เอี่ยมอ่อง ที่มาจากบิ๊กข้าราชการจำนวน 4 ราย จาก 3พรรคการเมืองดัง อย่างค่ายเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติ
คนแรก “บิ๊กอ๊อด -พล.ท. พิศาล วัฒนวงษ์คีรี”อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27 ค่ายเพื่อไทย เขาจบ ปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต โรงเรียนนายร้อย จปร. ประสบการณ์การทำงาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
บิ๊กอ๊อด-พล.ท.พิศาล คนเชียงใหม่ จบโรงเรียนนายร้อย จปร.รุ่นที่ 20 เติบโตและไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆที่ ร.1 พัน 2 รอ. จากผู้หมวดเป็นรองผู้บังคับกองร้อย เป็นผู้บังคับกองร้อยกระทั่งถูกย้ายไปภาคใต้ตั้งแต่ปี 2521 ไปปราบกบฏ 26 มีนาคม จนขึ้นมาสู้ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ในปี2547 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร บิ๊กอ๊อด ถือเป็นผู้บุกเบิกกีฬาคนพิการของไทยโด่งดังอย่างมากในการแข่งขันระดับโลก จนสหประชาชาติให้รางวัล และตัวพล.ท.พิศาลเองได้เป็นบุคคลดีเด่นของชาติอีกด้วย
คนที่ 2 “ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์” จากอดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เกษียณอายุราชการ เมื่อ 30 ก.ย.2565 แล้วตีตั๋วเข้าค่ายเพื่อไทย และ ได้เป็น สส.หน้าใหม่ที่ กาญจนบุรี เขต 4สมใจหวัง โดยนายศักดิ์ดาจบโรงเรียนป่าไม้ จ.แพร่ รุ่น 24 จบปริญญาโทการบริหารทรัพยากรป่าไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้งนี้นายศักดิ์ดา เคยมีคดีความฟ้องร้องกันไปมากับ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย
จนทำให้ นายจิรายุต้องกลืนเลือดลาออกจากค่ายเพื่อไทยไปทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 3 ปีของ “ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์” ในตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขามีผลงานมากมาย โดยเฉพาะการเป็นผู้ขับเคลื่อนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จากกรมเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก ให้กลายเป็นหน่วยงานสำคัญในการจัดหาแหล่งน้ำให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้น้ำกินน้ำใช้ และน้ำภาคการเกษตร
คนที่3 “ราชิต สุดพุ่ม”อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี สู่ สส. นครศรีธรรมราช เขต 1 ค่ายประชาธิปัตย์ โดยนายราชิต เป็นคน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช รับราชการอยู่ในนครศรีธรรมราช หลายอำเภอ เช่น ปลัดอำเภอปากพนัง ปลัดอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปลัดอำเภอนบพิตำ ก่อนจะเติบโตในหน้าที่ราชการ ขึ้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และ ก่อนจะก้าวเกษียณอายุราชการ ในตำแหน่งพ่อเมืองปัตตานี
การเข้าสู่การเมืองของ “ราชิต” นั้นเนื่องจากช่วงที่เป็นรองผู้ว่าฯสงขลา ได้รู้จักกับ “นิพนธ์ บุญญามณี” คนโตเมืองสงขลา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ “ราชิต” เกษียณอายุราชการ “นิพนธ์” จึงชวนให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.นครศรีธรรมราช เขต 1พรรคประชาธิปัตย์ และก็ไม่พลาดเพราะ “ราชิต”กลายเป็น สส.ป้ายแดง กวาดไป2หมื่นกว่าคะแนน เอาชนะแชมป์เก่า ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ จากค่ายพลังประชารัฐไปได้
คนที่ 4 “ปรเมษฐ์ จินา”จากอดีตรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีต รองนายก อบจ.สุราษฏร์ธานี สู่ สส. สุราษฎร์ธานีเขต 5ค่ายรวมไทยสร้างชาติ ของลุงตู่ ทางปรเมษฐ์ สามารถชนะ นายนุกูล พูลสวัสดิ์ พรรคก้าวไกล นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ พรรคประชาธิปัตย์ ไปได้สบายๆ ซึ่งต้องถือว่าค่ายรวมไทยสร้างชาติ สร้างผลงานดีเยี่ยมในสุราษฎร์ธานี เพราะชิงกัน 7เขต พรรคลุงตู่กวาดไป6เขต เหลือให้ภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง ส่วนค่ายสะตอกินแห้วสอบตกราวรูด
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลงานของ 4 สส.ป้ายแดง สมัยแรก ที่มาจากข้าราชการ ว่าจะทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนประชาชนได้ดีแค่ไหน?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews