“พิธา” หวิดนายกฯ แค่คิดก้อวุ่นฉุดศก.
นับถอยหลัง 13 ก.ค. วันโหวตนายกฯ กับสมการการเมือง 376 เสียง ดัน “พิธา” ถึงฝัน เป็นผู้นำประเทศว่ากันว่า เกมนี้สุดจะระทึกและเร้าใจ นั่นเพราะ ณ วันนี้คะแนนเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ยังขาดอยู่ และยังต้องลุ้น จนนาทีสุดท้าย
โดย “นายอนุสรณ์ ธรรมใจ” กรรมการวิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การโหวตเลือกนายกฯ ขึ้นอยู่กับส.ว.ว่าจะโหวตให้ “นายพิธา” หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม เก้าอี้นายกฯยังเป็นของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเสียงข้างมาก และเชื่อว่าจะไม่เกิดม็อบจากคนเห็นต่าง แต่ถ้าหากพรรคก้าวไกล กลับไปเป็นฝ่ายค้าน ก็จะเกิดความยุ่งยากทางการเมือง
“ไม่เกิดครับไม่เกิดเลยครับ เพราะว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลน่าจะเป็นเอกภาพ นายกก็ยังอยู่ในฝ่ายพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอยู่ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ว่าถ้าพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านเนี่ย ตรงนั้นอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากตรงการเมืองนิดหน่อย”
“นายอนุสรณ์” กล่าวอีกว่า การที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจ
“อาจารย์วันนอร์เป็นประธานรัฐสภาก็เป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจ เพราะว่าตรงนี้มันก็สะท้อนมาที่ตลาดหุ้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วก็มันก็จะทำให้เห็นว่าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย มีเอกภาพสามารถที่จะตกลงกันได้ แล้วก็อาจารย์วันนอร์ ก็น่าจะเป็นตัวกลางที่ดีในฐานะประธานรัฐสภา ท่านเองก็มีประสบการณ์สูงด้วยในทางการเมือง แล้วก็เคยเป็นประธานรัฐสภามากแล้ว”
แต่อย่างไรก็ตาม ในมุมมองนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน มองว่า แม้การเลือกนายกฯ จะมีการกำหนดไว้ในวันที่ 13 ก.ค. แต่ความไม่ชัดเจนการเมืองอาจลากยาวอีก 1-2 สัปดาห์ อิงคำพูดของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่กล่าวถึงเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า
รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าจะเลือกกี่ครั้ง หากครั้งแรกได้ก็ถือว่าจบ แต่ถ้าไม่ครบ 376 เสียง ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มไปในทิศทางดังกล่าว หลังผู้ที่มีส่วนโหวตฯ ยังมีความเห็นแตกต่างกัน คาดว่าเลือกใหม่วันที่ 19 ก.ค. แต่ถ้ายังไม่ได้ จะเป็นเมื่อไร จะดูตามหน้างานอีกครั้ง
ทั้งนี้ ระยะเวลาสิ้นสุดกระบวนการดังกล่าวไม่มีกำหนดกรอบเวลาที่แน่นอน โดยหากการโหวตลากยาวไปเรื่อยๆ จะเริ่มสร้าง Downside ความล่าช้างบประมาณปี 2567
ด้านนักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) มีมุมมองในเรื่องการโหวตนายกฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า 1) SET INDEX จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1,480-1,520 จุด ระหว่างรอผลโหวต 2) SET INDEX จะตอบรับเชิงบวกเมื่อมีความชัดเจน โดยถ้านายกฯจากก้าวไกลหรือเพื่อไทย คาดตอบรับเชิงบวก 3-5% ในช่วง 1 เดือนหลังได้นายกฯ 3) SET INDEX จะตอบรับเชิงลบ 2-3% ถ้าหากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าหรือมีการสลับขั้วจากความกังวลในประเด็นการเมืองนอกสภาฯ
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาความเคลื่อนไหวการโหวตเลือก”นายกฯ” อย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขยับนั่นหมายถึงเศรษฐกิจไทยที่จะกระเพื่อมนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews