Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ก้าวไกล-เพื่อไทย ขายจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน

เหลือเวลาอีกไม่มาก จะได้รู้ว่า นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยจะเป็นใคร จะใช่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

 

 

 

 

หรือจะมีรายชื่ออื่นเสนอตัวมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นทางเลือกหรือไม่ วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ว่าการเมืองไทยจะไปต่ออย่างไร

 

 

แต่ภาพความเหนียวแน่นระหว่าง พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีสัมมนาย้ำชัดว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่แตกแถว และยกมือสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน สร้างความโล่งใจให้กับภาคเอกชนไปเปราะหนึ่ง ว่าอย่างน้อยพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ปล่อยมือกัน และหวังว่าในอนาคตบรรยากาศทางการเมืองจะไม่เกิดความวุ่นวาย เพื่อให้ประเทศไทยได้เดินหน้าต่อไป

 

 

โดยนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การจับมือกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ถือเป็นบรรยากาศเชิงบวกของภาคเอกชนและนักลงทุน ซึ่งทั้งสองพรรคมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมทางความคิดเหมือนกันหลายด้าน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ ความต้องการของประเทศเวลานี้ได้ โดยจุดแข็งของพรรคเพื่อไทยคือประสบการณ์ในการทำงานบริหารประเทศ สามารถเชื่อมโยง ประสานระหว่างพรรคการเมืองได้ ในขณะที่พรรคก้าวไกลมีจุดแข็งของความคนรุ่นใหม่ เน้นความเป็นสากลมากขึ้น และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก

 

 

จึงอยากให้ทั้งสองพรรคใช้จุดแข็งที่มี ตอบโจทย์ความท้าทายของประเทศในปัจจุบัน ที่ต้องทำงานร่วมกันแบบสมานฉันท์ ไร้รอยต่อระหว่างกระทรวง ระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งปัญหาบางเรื่องอาจต้องใช้ประสบการณ์ในการแก้ไข แต่กับปัญหาบางเรื่องต้องใช้แนวคิดของคนรุ่นใหม่มาตอบโจทย์สนับสนุนให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง

 

 

อย่างไรก็ตาม จุดร่วมของสองพรรคการเมือง ที่ภาคเอกชนเห็นชัดเจน คือการให้ความสำคัญกับการส่งออก ที่ถือเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสและสร้างแต้มต่อของประเทศไทย การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทยด้วยนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ๆ การผลักดันสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและสนับสนุนห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

 

 

ซึ่งจากนี้ไปภาคเอกชนหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะราบรื่น หากทุกฝ่ายเห็นประโยชน์ร่วมกันของประเทศชาติ เพื่อให้ ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไร้ความขัดแย้ง ไม่สร้างบรรยากาศเชิงลบให้ขยายวงกว้างออกไป เพราะตอนนี้เห็นแล้วว่าคู่ค้าหลักของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปหรือแม้แต่ประเทศจีนยังคงชะลอตัว จึงหวังว่าทุกฝ่ายจะไม่สร้างเงื่อนไขเพิ่ม

 

 

โดยการบริหารประเทศจะรุ่นไหน รุ่นเก๋าหรือรุ่นใหม่ก็ไม่สำคัญ ขอแค่เลือกคนให้เหมาะกับงาน เชื่อว่าประเทศไทยยังไปต่อได้อีกไกล

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube