“ชาดา” ผู้ร้าย VS ตำรวจ-พระเอก
สภาถกคุณสมบัติก่อนโหวต “พิธา” นั่งนายกฯ ดุเดือด เปิดหัวหาดด้วย “ชาดา ไทยเศรษฐ์”เจ้าพ่อเมืองอุทัยฯ วัย62 ปี ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 อย่างเต็มสูบ
ซึ่งมีรายงานข่าวว่าขณะที่ นายชาดา อภิปรายอย่างดุเดือด นั้น หนุ่มทิม-พิธา และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ต่างตั้งใจฟัง และมีสีหน้าตกใจเมื่อนายชาดา กล่าวถึงการเสนอกฎหมายให้ยิงคนที่หมิ่นสถาบันโดยไม่ติดคุก แต่ไม่มีการประท้วงแต่อย่างใด มีแต่กระแสขัดแย้งในโลกออนไลน์ตามมา
ด้านนายพิธา ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ประเด็นมาตรา 112ดังกล่าวไม่อยู่ใน MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล เพราะการแก้ไขกฎหมายอยู่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะพิจารณา ทั้งนี้ การยื่นร่างกฎหมายแล้วจะไม่มีการผูกขาดชุดความผิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง พูดกันแบบวุฒิภาวะไม่หยาบคาย ใช้เหตุผล คือ ทางออกของประเทศ พร้อมระบุว่า”ผมไม่เห็นด้วยที่บอกว่า ใครหมิ่นสถาบันให้เอาปืนไปยิงเลย ซึ่งเท่ากับไม่รู้ถึงวัฒนธรรมรับผิดรับชอบ”
ส่วน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลุกขึ้นอภิปรายในรัฐสภาว่า”ปัญหาการแก้ไข ม.112 นั้นควรแก้ได้ และการแก้ไขควรเป็นเรื่องปกติ โดยยกตัวอย่างถึงการแก้ไขกฎหมายมาตราดังกล่าวในอดีตที่ผ่านมา เช่นที่ปรากฏในคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 พร้อมย้ำว่า การแก้ มาตรา112 เป็นเรื่องปกติ รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศก็ยังแก้ได้ แล้วทำไมประมวลกฎหมายอาญาเราแก้ไม่ได้”
ด้าน” คำนูณ สิทธิสมาน’ สมาชิกวุฒิสภา ระบุว่า ” “ผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยหรืออีกจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกท่าน เขาไม่ได้เห็นว่า มาตรา112 เป็นเพียงกฎหมายมาตราหนึ่งเท่านั้นแต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และทางจริยธรรม ที่สืบทอดมายาวนานของสังคมไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน การจะรักษามรดกวัฒนธรรมและจริยธรรมนี้ไว้ บนสังคมที่ก้าวไปข้างหน้า ควรจะทำไว้”
ขณะที่อีกหนึ่งตัวละครสำคัญในสมการการเมือง อย่างเฮียโทนี่ เคยพูดไว้เมื่อต้นปี 2566 ว่า”ผมได้พูดเรื่อง 112 หลายครั้งว่าปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้ที่ขาดหลักนิติธรรม ผมมั่นใจว่าถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่มีเหตุการณ์แบบทุกวันนี้ เพราะแทบจะไม่รู้สึกว่ากฎหมายเป็นปัญหา การแก้ปัญหาด้วยการบริหารด้วยหลักนิติธรรมที่เป็นสากลจะง่ายและรวดเร็วกว่าการแก้กฎหมายเยอะ”
ย้อนกลับมาที่ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ที่ประกาศตัวว่าเป็น”โจรที่รักชาติ” ผ่านการอภิปรายตอนหนึ่งว่า “ตนเองและพรรค ภูมิใจไทย รวมถึงประชาชน ถือเป็นพันธกิจที่จะคัดค้านพรรคก้าวไกลทุกทางตราบใดที่มีชีวิตอยู่ ท่านบอกตัวเองเป็นฝั่งประชาธิปไตย อีกฝ่ายจะเป็นฝั่งอะไร ไม่ใช่ฝั่งประชาธิปไตยหรือ เป็นฝั่งโจรหรือ แต่ถ้าเป็นโจรก็ยอม เพราะเป็นโจรที่รักชาติ ” ซึ่งจากประโยคนี้ทำให้ชื่อของ “ชาดา “ดังชั่วข้ามคืน ถูกค้นหาประวัติและความเป็นมาจากสังคมอย่างกว้างขวาง
และตามเส้นทางชีวิตของเขาพบว่าไม่ธรรมดา ทั้งในส่วนของครอบครัวก็ถูกลอบสังหารหลายคน รวมไปถึงตัวชาดาเองก็เคยถูกลอบยิง แต่ไปถูกลูกชายเสียชีวิต หรือจะเป็นในกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเข้าค้นบ้านและแจ้งข้อหาพกอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง เมื่อปีพ.ศ. 2560 ขณะเส้นทางการเมืองเป็นสส.อุทัยธานีมาแล้วรวมครั้งนี้ 3 สมัย และยังส่งน้องสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มาแล้ว
อย่างไรก็ตามแม้ภาพของ”ชาดา”จะดูนักเลงและเป็นผู้ร้ายในสายตาคนบางคน แต่วันนี้ เขาหักเกียร์ถอยหลังพุ่งชน ทั้งตำรวจอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หรือพระเอก อย่างพิธา และคนที่แตะต้องมาตรา112 แบบไม่กลัวทัวร์ลง นั้นเป็นเพราะอุดมการณ์ ความเชื่อ ความศรัทธา ของแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews