หลังจากหนุ่มทิมพิธา ยังไปไม่ถึงจุดหมายเก้าอี้นายกฯ ทำให้ส.ส.หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตา ขณะเจ้าตัว พิธา โพสต์ ประโยคเด็ด “ยอมรับแต่ไม่ยอมแพ้ ! ..เดินหน้าวางแผนยุทธศาสตร์รวบรวมเสียงกันใหม่” ด้าน 2 ผู้นำจิตวิญญาณของฝั่งเกลียดเผด็จการท๊อปบู้ท อย่าง “อานนท์ นำภา” ทนายและแกนนำม็อบ 3 นิ้ว และ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ศาสดาคนรุ่นใหม่ ก็ขยับส่ง “สาร” ไปยังมวลชนด้อมส้มเพื่อให้ลุกขึ้นสู้ ต่อต้านกับความไม่ยุติธรรม
กลุ่มมวลชนที่ชุมนุมในปัจจุบันที่เริ่มมาตั้งแต่วันก่อนโหวตนายกฯ มาถึงปัจจุบัน ล้วนมีรากเหง้ามาจากม็อบราษฏรในอดีต ที่แกนนำหรือตัวตึงหลายคนในวันนั้นโตมากลายเป็นสส.ในวันนี้ จึงน่าจับตาว่าในสถานการณ์ที่มวลชนกำลังไม่พอใจ และผิดหวังกับพฤติกรรมของสว. ที่ทำให้พิธาไปไม่ถึงดวงดาว และกำลังเติมเชื้อปลุกกระแสม็อบให้เพิ่มมากขึ้นนั้น ท่าทีของเหล่าคนม็อบที่กลายเป็นสส.เหล่านี้จะยังคงเข้มแข็ง กร้าวราวดุดันเหมือนตอนที่เป็นแค่ประชาชนพลเมืองเต็มขั้นหรือไม่
คนแรก “รังสิมันต์ โรม” วัย 30ปี สส.ปาร์ตี้ลิสต์ 2 สมัย ระบุ ว่า “การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุดลง อย่าเพิ่งทิ้ง อย่าเพิ่งถอย เราจะจับมือกันให้มั่นแล้วเดินหน้าให้ พิธา เป็นนายกฯ”..ในอดีตนั้น “รังสิมันต์” เคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ช่วงหลังรัฐประหาร 2557 และเข้าร่วมชุมนุมกับมวลชนอีกหลายกลุ่ม โดยมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นคดีความกับรัฐไปแล้วไม่ต่ำกว่า 7 คดี ติดคุก 3 รอบ ต่อมาได้เป็นสส.สมัยแรกปี 2562 ทำหน้าหน้าฝ่ายค้านแบบเครื่องจักรสังหาร เขย่าสีกากีแบบดุเดือด
จากนั้นในศึกเลือกตั้งปี 2566 ก็สอบผ่านเข้าสภาได้อีกเป็นสมัยที่ 2 เข้าจับคู่กับจอมแฉอย่าง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จนได้รับเสียงเชียร์จากมวลชนล้นหลาม ซึ่ง “รังสิมันต์ ” ยังคงเดินหน้าเปิดโปงความไม่ยุติธรรมต่อเนื่อง จนล่าสุดศาลรับฟ้องคดีที่เขาโดน ‘สว.อุปกิต’ ฟ้องหมิ่นประมาท ปมอภิปรายในสภาฯเกี่ยวกับเรื่องจีนเทา ที่มีเนื้อหาพาดพิง สว.อุปกิต และยังเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทด้วย
คนต่อมา “ไอซ์ -รักชนก ศรีนอก” สส.หน้าใหม่ป้ายแดงแรงฤทธิ์ โพสต์เฟซบุ๊กหลังวันโหวตนายกฯว่า “ขอให้ทุกคนอย่าท้อ อย่าถอดใจ อย่าทิ้งฝันของพวกเรา กลไกสืบทอดอำนาจ มันถูกวางทั้งระบบและคนเอาไว้หลายปี จะแก้ไม่ง่าย แต่พวกเราก้าวไกลจะทำแน่ เราเดินมาไกล ขอให้กอดคอสู้ไปด้วยกัน ขอชนะแค่ครั้งเดียว” โดยช่วง2-3ปีก่อน “ไอซ์” เข้าร่วมกับการชุมนุมหลากครั้งหลายที่ ต่อมาเธอเข้าสังกัดก้าวไกลและหาญกล้าลงชิงชัยกับขาใหญ่บางบอน และเอาชนะได้สำเร็จ
ส่วนเรื่องการร่วมกิจกรรมการเมืองนั้น ล่าสุดต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา เธอเข้าร่วมกิจกรรม “ดนตรีเปิดหมวกไล่หวดเผด็จการ”เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัว ให้กับเพื่อนผู้ถูกคุมขัง เธอระบุว่า”ตนก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกแจ้ง ม.112 ซึ่งมีผลกระทบกับชีวิตเยอะ โดนแปะป้ายว่าเป็นพวกชังชาติ การโดนคดีทางการเมืองทำให้ตัดสินใจทำงานทางการเมือง เมื่อก่อนมาร่วมม็อบ เป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่เราอยากเรียกร้อง ความถูกต้อง ความยุติธรรม อยากเรียกร้องอนาคตที่ดีให้กับตัวเอง ”
คนต่อมา “ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว” ส.ส. ปทุมธานี เขต 3 มาจาก “แกนนำนักศึกษา” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง “ทีมเจรจากับตำรวจ” เพื่อเปิดพื้นที่การชุมนุม จนมาเป็น สส. ซึ่งในอดีตนั้นเธอจัดเป็นตัวแรงในม็อบกลุ่มราษฎร และตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 อีกด้วย เพิ่งได้ถอดกำไล EM ข้อเท้าเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมาหลังจาก ยื่นคำร้องขอถอดมาแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ และเมื่อได้เป็น สส .เธอพูดชัดว่า” แก้ไขอย่างเดียวไม่พอ ขอแก้แค้นด้วย !
คนต่อมา “โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ” สส. เขตพระโขนง บางนา ค่ายก้าวไกล สายตรง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” โตโต้เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง WeVo เริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่เขายังเป็นนักศึกษา หลังรัฐประหาร 2557และต่อเนื่องมาโดยตลอด และเขาร่วมงานกับค่ายก้าวไกลมาตั้งแต่ก่อตั้งอดีตพรรคอนาคตใหม่ซึ่งความสำเร็จในวันนี้ของเขาแลกกับการถูกดำเนินคดีความมั่นคง 31 คดี ในจำนวนนั้นเป็นคดี มาตรา112 จำนวน 3 คดี ต้องจับตาว่าในวันที่อุณหภูมิการเมืองร้อนแรงขึ้น มวลชนลงถนนมากขึ้น ทาง4 สส.อดีตตัวตึงม็อบ จะแอ๊คชั้นอย่างไรในวันที่”ด้อมส้ม”ล้อมประเทศ!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
