ผ่านไปแล้วสำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมรัฐสภา มีมติเสียงข้างมากไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี ในสมัยประชุม 2566 ด้วยมติ 395 ต่อ 312
และในวันเดียวกันนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งหนังสือแจ้งยังประธานสภาฯ แจ้งว่าศาลมีคำสั่งให้ “นายพิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ชั่วคราว นับแต่วันที่ 19 ก.ค. จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย นับเป็นการปิดประตูอย่างถาวรสู่เก้าอี้นายกฯของ”นายพิธา” ซึ่งนายพิธา เองก็รับทราบคำสั่งดังกล่าวและจะปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอื่น
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้กำหนดการประชุมเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งถัดไป ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ซึ่งครั้งนี้ตามข้อบังคับที่ 41 ที่มีการลงมติไปแล้วในสมัยประชุมนี้ จะเสนอชื่อคุณพิธาไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงต้องติดตามว่าใครจะถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯในการโหวตครั้งที่ 3 โดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ก็ถูกจับตามองว่าจะถูกเสนอชื่อในครั้งต่อไป
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ไอร่า คาดว่าตลาดยังคงให้ความสนใจกับการเมืองภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยต้องติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในรอบถัดไป อาจกระตุ้นแรงขายลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าแคนดิเดตของทางฝั่งพรรคเพื่อไทยมีโอกาสถูกเสนอชื่อต่อไป และจะเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้พูดคุยกับ นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ ถึงประเด็นดังกล่าวโดย นายพรายพล ให้ความเห็นว่า ถ้ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมาเป็นเพื่อไทย ก็มีความเป็นไปได้ แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายบางอย่าง เพราะหากเหมือนเดิม ส.ว.ก็คงไม่โหวต
ทั้งนี้เมื่อถามว่า “นายเศรษฐา” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ถูกจับตาว่าจะถูกเสนอชื่อในครั้งต่อไปมองว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร “นายพรายพล” กล่าวว่า “นายเศรษฐา” น่าจะทำหน้าที่ได้ และพรรคเพื่อไทยเองก็มีประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมืองมาก่อน มองว่าอาจได้รับการยอมรับจาก ส.ว.
อย่างไรก็ตามคงต้องจับตาสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด เพราะการจัดตั้งรัฐบาล และการเลือกนายกรัฐมาตรี ที่เป็นไปตามกรอบเวลา มีผลต่อประชาชนและเศรษฐกิจไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews