การเมืองวิกฤต มีโอกาส
ในทุกวิกฤตมีโอกาส เรามักได้ยินคำพูดแบบนี้เสมอ สำหรับประเทศไทย ก็เช่นกัน เวลานี้สถานการณ์การเมืองไทย ถึงจะพูดไม่เต็มปากว่าอยู่ในขั้นวิกฤต
แต่ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงจังหวะเวลาที่ราบรื่นนัก เพราะหากฝ่ายประชาธิปไตยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ คงตอบคำถามนักลงทุนต่างชาติได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าต่างชาติจะไม่เข้าใจประเทศไทยไปทั้งหมด
โดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า
เป็นปกติที่ในช่วงการเลือกตั้ง หรือการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ การลงทุนจะชะลอตัว โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศ เพราะจะรอดูว่าใครจะเป็นรัฐบาลใหม่ และนโยบายจะสอดคล้องกับแผนการลงทุนที่มีอยู่หรือไม่ แต่หากมีระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลชัดเจน ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจมากนัก โดยเฉพาะกับนักลงทุนไทย และนักลงทุนเดิมที่ลงทุนอยู่ในประเทศ เวลานี้ยังไม่พบมีการย้ายการลงทุนหนี โดยเฉพาะกับนักลงทุนอันดับ 1 คือญี่ปุ่น มีความมั่นคงในการลงทุนสูงมาก แต่หากระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลของไทยไม่ชัดเจน อาจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนใหม่ เพราะส่วนใหญ่มีการวางแผนการลงทุนไว้แล้ว การจะขยับหรือเลื่อนเวลาการลงทุน เป็นไปได้ค่อนข้างยาก
และถ้าประเทศไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในเดือนสิงหาคม อาจจะทำให้ประเทศเสียโอกาสในส่วนนี้ และหากไม่มีการลงทุนใหม่ ปัญหาที่ตามมาจะกระทบกับหลายส่วนในภาคเศรษฐกิจ ทั้งการจ้างงาน การซื้อที่ดิน การก่อสร้าง เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะหายไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีหลายประเทศพร้อมที่จะฉวยจังหวะเวลานี้ เข้ามาลงทุนในประเทศไทย หากมีนักลงทุนจากบางประเทศย้ายออก เพราะจะทำให้คู่แข่งในการลงทุนน้อยลง
แต่หากเกิดความวุ่นวาย จากการชุมนุมทางการเมือง จะกระทบต่อทั้งภาพลักษณ์ และความมั่นคง ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จะเป็นช่วง High Season คาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2 ล้านคน และตลอดทั้งปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว แตะ 30 ล้านคน ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน ช่วยพยุงเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น
แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองเกิดความวุ่นวายจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แน่นอนว่าเม็ดเงินในส่วนนี้จะหายไปทันทีและจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ขยายตัวต่ำลง อาจเติบโตได้ไม่ถึงร้อยละ 3
ด้านนายสแตนลีย์ คัง ที่ปรึกษาอาวุโส หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติเวลานี้หวังเพียงอย่างเดียว คือ อยากให้ไทยมีรัฐบาลใหม่เร็วที่สุด อย่างช้าไม่เกินเดือนสิงหาคม หากลากยาวออกไปจะส่งต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ๆ จะขาดการพิจารณา เพราะรัฐบาลรักษาการไม่สามารถอนุมัติได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบกับภาระหนี้สินของเอกชน ที่รอความชัดเจนนโยบายด้านการเงิน
แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าทุกอย่างจะจบได้ด้วยการเจรจา แม้ว่าพรรคที่ได้คะแนนพรรคอันดับที่ 1 จะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว แต่ก็มีพรรคลำดับที่ 2 อยู่ ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ยินดีร่วมงานด้วย
การเมืองเวลานี้ใครจะจับมือใคร ใครจะปล่อยมือกันก็ได้ ขอแค่มีคำตอบให้กับประชาชน ไม่อยากให้ประเทศถึงทางตัน เพราะเศรษฐกิจจะเกิดสุญญากาศไม่ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews