เขี่ยก้าวไกล-เพื่อไทยนายก 27 โหวต ม็อบหลอนลงทุน
จับตาสมการการเมืองโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 หลัง “ก้าวไกล” ประกาศยอมถอย
เปิดทาง “เพื่อไทย” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลัง “พิธา” ไปไม่ถึงฝัน โดนสอยคารัฐสภา ด้วยการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตั้งแต่ 19 กรกฏคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยปมถือหุ้นสื่อ
แต่อย่างไรก็ตาม เกมนี้ ว่ากันว่าไม่ง่ายสำหรับ “เพื่อไทย” แม้ว่าจะเปิด 3 แนวทางจัดตั้งรัฐบาล ทั้งการขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. และ สส. นั่นเพราะมี “ก้าวไกล” ที่ย้ำจุดยืนมาตรา 112 ขณะที่สูตรการข้ามขั้วนั้น ทาง “หมอชลน่าน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย
มีการประเมินไว้อย่างน่าสนใจว่า การที่ “เพื่อไทย” ขึ้นมาทำหน้าที่จัดตั้งรัฐบาล น่าจะเห็นการปิดเกมโหวตนายกฯในการประชุมรัฐสภา 27 กรกฎาคมนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องติดตามเรื่องการชุมนุมโดยเฉพาะในจังหวัดฐานเสียงของ “ก้าวไกล ทั้ง ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่
สอดรับกับนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) มองว่า หากวันนี้พรรคเพื่อไทยยังจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับก้าวไกล จะช่วยลดความตึงเครียดด้านการชุมนุม แต่โอกาสผ่านส.ว. อาจไม่ง่าย ขณะที่ถ้าไม่มีก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล ความตึงเครียดในการชุมนุมจะสูงขึ้น แต่โอกาสผ่าน ส.ว. จะง่ายขึ้น ด้วยทั้ง 2 ทางเลือกที่มีทั้งโอกาสและอุปสรรคอยู่ในตัว
ดังนั้นเมื่อพูดถึงการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงใยกับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของต่างชาติต่อการลงทุนในประเทศไทย
โดย “นายดนุชา พิชยนันท์” เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทยค่อนข้างมาก ดังนั้นการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก็อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยดี
“นักลงทุนที่เค้าจะมาลงทุนเค้าก็มองปัจจัยนี้เป็นปัจจัยหนึ่ง ถ้าเราเปลี่ยนผ่านอย่างสงบเรียบร้อยปัญหาทางด้านการเมืองก็ให้เป็นเรื่องของการเมืองก็ว่ากันไป เราพี่น้องประชาชนเราก็
คอยเฝ้าดูแต่ว่าก็ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์ที่จะไปมีการประท้วงหรือใช้ความรุนแรง”
นอกจากนี้ “นายดนุชา” ยังได้กล่าวถึงความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ย่อมกระทบต่องบประมาณในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
“ตอนนี้มันเป็นการใช้งบประมาณของปีงบประมาณปี 66 ซึ่งหลายๆเรื่องมันผูกพันไปแล้วมันก็มีการเบิกจ่ายไปตามแผน การเบิกจ่ายของเค้าแต่มันก็มีอย่างที่ผมเรียนแหละว่า พอวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งจริงๆแล้วมันต้องเป็นงบประมาณ ปี 67
ก็ถ้างบประมาณ ปี 67 ยังไม่ออกเพราะว่าตอนนี้ก็ยังอยู่ระหว่างตั้งรัฐบาลจะออกกันจริงๆก็อาจจะประมาณปีหน้าประมาณไม่น่าจะเกินเดือนมีนา ก็อย่างที่เรียนว่าสำนักงบประมาณเขาจะมีวิธีแก้ปัญหาตรงนี้อยู่แล้วก็ใช้ หลักก็จะมีหลักเกณฑ์ในการใช้งบประมาณไปพลางก่อน ซึ่งพอทางรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้วก็คงต้องเสนอหลักเกณฑ์นี้เข้ามา เพื่อที่จะให้มีการใช้งบประมาณไปพลางก่อน ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องของการที่จะมีเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจได้”
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสมการโหวตนายกฯคนที่ 30 อย่างใกล้ชิด รวมถึงการขยับหมากของเพื่อไทยและก้าวไกล เพราะทุกการขับเคลื่อนย่อมหมายถึงคะแนนเสียงที่จะได้จากส.ส.และส.ว.นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews