เลื่อนแล้วเลื่อนอีกสำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งตอนนี้ลากยาวไปถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม ก็ทำให้กระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น
อาจล่าช้าไปกว่ากรอบเวลาที่กำหนด และหากล่วงเลยไปเกินกว่าเดือนสิงหาคม หรือ เดือนกันยายน ก็อาจทำให้ภาคเศรษฐกิจได้รับผลกระทบตามไปด้วย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ รวมไปถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน และผู้ใช้แรงงานด้วย
ซึ่งภาคธุรกิจและเอกชนนั้นก็ยังคงมีความหวังที่จะได้เห็นนายกฯและรัฐบาลชุดตามกรอบเวลา เพื่อมาฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจและแรงงานไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การเลื่อนลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป โดยยังคงมีการกำหนดวันที่ชัดเจนภายในเดือนสิงหาคม ยังถือว่ารับได้หากการพิจารณายังอยู่ในไทม์ไลน์ที่ภาคเอกชนคาดการณ์ ว่าจะได้นายกรัฐมนตรีและจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายในเดือนสิงหาคม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเวลานี้ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับการถูกตรวจสอบ ในขณะที่หน้าตาของคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเวลานี้ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร
ด้าน นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าในส่วนของจังหวัดภูเก็ตคาดว่าในช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวจะกลับมา 100% ในเรื่องของปัญหาต่างๆ ที่แก้ไขได้ก็ได้มีการหารือและปรับปรุงแก้ไขไปก่อน แต่ในส่วนกลางที่ไม่สามารถจัดการเองได้ ก็ยังคงรอรัฐบาลมาเดินหน้าต่อ
ทั้งนี้นายก้องศักดิ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงปัญหาแรงงานว่า ตอนนี้การขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ที่ยังต้องติดตามดูอีกครั้งในช่วงปลายปี ซึ่งเบื้องต้นก็แก้ไขด้วยการใช้นักศึกษาฝึกงาน และเร่งหาแรงงานมาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามหากการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด หากยังไม่ชัดเจนและล่าช้า ก็ยิ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะภาพรวมเศรษฐกิจไทย จะเดินหน้าต่อหรือชะลอต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
