หลายคนยังคงจับตาไปที่พรรคเพื่อไทยหลังก้าวไกลส่งไม้ต่อให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จนสุดท้ายพลิกขั้วแยกทางเดินก้าวไกล
ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องมาตามลุ้นกันอีกว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ยังร้อนแรงอยู่นั้นใครจะได้เก้าอี้ไป แม้มีแนวโน้มว่าเศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เข้าวินแต่เกมนี้ยังมีตัวแปรอีกมากโดยเฉพาะส.ว.ที่จะโหวตให้หรือไม่รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อ.เศรษฐศาสตร์ คณะบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่าเส้นทางการเมืองปัจจุบันได้เดินทางมาสู่ท่ามกลางความขัดแย้งโดยมีการแตกขั้วไปเรื่อยๆระหว่างผู้ครองอำนาจรัฐเดิมและผู้ที่พยายามสร้างอำนาจรัฐใหม่ที่เชื่อมโยงประชาชนจนไปถึงระดับสากลด้วย เพราะโลกกำลังตกอยู่ในสงครามช่วงชิงความเป็นเจ้า ซึ่งอำนาจเก่านั้นไม่ได้มีเพียงสองลุงแต่ยังรวมไปถึงโครงสร้างส่วนบน ความเชื่อ ความศรัทธา ระเบียบ กฎเกณฑ์ กติกา อุดมการณ์ ประเพณี และวัฒนธรรม ของสถาบันทางสังคมอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นสองลุงก็เป็นเพียงตัวแทนของสถาบันเดิมเท่านั้นจนล่าสุดวันที่7ส.ค.66ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยแถลงประกาศจับมือกับพรรคภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาล หวังแก้ปัญหาให้ประชาชน แต่เอฟเฟกต์ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ดีนัก
ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังต้องมาติดตามอีกว่าจะมีพรรคการเมืองใดเข้าร่วมเพิ่ม แล้วจะได้เสียงจากส.ว.ตามเป้าที่กำหนดไว้หรือไม่ เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีลุงตู่ ลุงป้อมอยู่ในรัฐบาลด้วย ทั้งนี้วันที่8 ส.ค.66 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย จัดประชุม ส.ส. พรรค โดยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคทั้งนายชัยเกษม นิติสิริ, นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้าร่วมประชุมด้วยซึ่งด้านทีมเจรจาชี้แจงว่า ทั้ง 2 ลุงและพรรค ประชาธิปัตย์ จะเป็นทางเลือกสุดท้ายและทางพรรคก็ยังพูดคุยกับพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย
ซึ่งรศ.ดร.ณรงค์ บอกว่าไม่มั่นใจว่าจะได้นายกรัฐมนตรีในเดือนนี้หรือไม่ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน เพราะมีประเด็นต่างๆมากระทบอยู่เรื่อย คงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดอีกครั้ง ส่วนเศรษฐา
จะได้เก้าอี้นายกคนที่30ของไทยไปหรือไม่ ก็คงต้องพึ่งเสียงจากส.ว.แล้วใครกันเล่าที่มีอำนาจสั่งส.ว.ได้ หรือถึงแม้เศรษฐา จะได้นายก แต่ในเชิงปฏิบัตินั้นก็คงจะไม่ราบรื่น อีกทั้งคาดว่าอนุทินชาญวีรกูล อาจมีโอกาสเข้าวินมากกว่าเศรษฐา
ก็เป็นได้ขณะมองว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะยังไม่ถึงขั้นสูญพันธุ์ไปซะทีเดียวแต่ก็คงจะลำบากในอนาคตแน่ เพราะสถานการณ์ภาพรวมค่อนข้างกดดันอย่างมาก อีกทั้งภายในพรรคเพื่อไทยนั้นไม่ปกติแล้ว ไม่เข้มแข็งเหมือนเดิมซึ่งถ้าเพื่อไทยอยากเป็นแกนนำให้สำเร็จ ต้องสร้างความเข้มแข็งภายในให้ได้เสียก่อน เพราะเป็นภาวะที่เพื่อไทยจะต้องเข้มแข็ง เหนียวแน่น แต่ปัจจุบันนั้นพบว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ได้แบ่งเป็น3กลุ่มแล้ว ทั้งกลุ่มที่ยังอยู่กับเสื้อแดงกลุ่มคนที่เริ่มเฉยๆและกลุ่มคนที่ต่อต้าน อีกทั้งเพื่อไทยยังมีศัตรูเดิมอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองหรือกลุ่มธุรกิจอื่น จนทำให้พรรคเพื่อไทยอ่อนแอและแทบจะไม่มีอำนาจต่อรองกับใครในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ แล้วยิ่งหากสมมุติเกิดวิกฤตรุนแรง หากเพื่อไทยวางตัวเหมาะสมอาจจะเติบโตได้ แต่ถ้าเดินผิดพลาด ก็คงจะล่มสลายเช่นกันนอกจากนี้นายใหญ่ อย่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เลื่อนกลับไทยนั้น
จะเป็นสัญญาณดีลไม่ลงตัวหรือไม่ สุดท้ายทักษิณ ก็คงกลายไปเป็นตัวรองเสียแล้ว เป็นเพียงฐานที่ยังคงเหลือ แต่จะมีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับใครได้ เพราะเพื่อไทยต้องการปฏิรูปให้เกิดอำนาจใหม่ จนทำให้เสียจุดยืนและพรรค ซึ่งจะเห็นได้ว่าแกนนำเสื้อแดงหลายคนต่างก็ออกมาพูดทั้งน้ำตาว่าผิดหวังกับพรรคเพื่อไทยไปเสียแล้วอย่างไรก็ตามเมื่อภายในของพรรคเพื่อไทยเริ่มอ่อนกำลังลง ซึ่งโอกาสที่จะได้นายกรัฐมนตรีมาจากเพื่อไทยนั้นก็ทวีความยากขึ้นไปอีก และทักษิณ จะยังมีอำนาจพอที่จะอยู่ในสมการการเมืองนี้อีกต่อไปหรือไม่…
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
