ประเด็นนายกรัฐมนตรีคนที่30ของไทยก็ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะได้เก้าอี้ไป เพราะไม่ว่าใครต่างก็โดนจ้องจะเล่นงานทั้งสิ้น ทั้งพิธา อุ๊งอิ๊ง เศรษฐา และอนุทิน อีกทั้งก็ยังต้องมาติดตามว่าสุดท้ายแล้วพรรคเพื่อไทยจะเป็น
แกนนำจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จหรือไม่ เพราะมีอุปสรรครอบด้านแทบจะไม่ต่างจากพรรคก้าวไกลเลยทีเดียว รวมไปถึงการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว และลุ้นว่าส.ว.จะโหวตเศรษฐา หรือไม่อีกด้วยรศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อ.เศรษฐศาสตร์ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่าสังคมได้เดินทางมาถึงจุดแยกขั้วและความขัดแย้งคือ1.ความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับผู้ครองอำนาจรัฐเดิม 2.ความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ และ3.ความขัดแย้งในโครงสร้างส่วนบน จนทำให้เชื่อมโยมกันเป็นลูกโซ่ดังคำที่ว่าผีไม่เผาไม่เหยียบเงากัน
ซึ่งอำนาจเก่าก็ไม่ได้มีเพียงสองลุงแต่ยังหมายถึงโครงสร้างส่วนบนด้วย ซึ่งการที่เพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จนั้นมองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะพรรคเพื่อไทยดำรงอยู่ได้เพราะผู้นำ ทุน และฐานของประชาชนแต่ปัจจุบันนั้นภายในของพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้มแข็งเหมือนเดิมแล้วทำให้เกิดการแบ่งเป็น3กลุ่ม ทั้งกลุ่มที่ยังอยู่กับเสื้อแดง กลุ่มคนที่เริ่มเฉยๆ และกลุ่มคนที่ต่อต้านซึ่งหากถามว่าเศรษฐาจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่นั้น
มองว่าเป็นได้แต่ก็คงจะลำบาก เพราะต้องพึ่งเสียงจากส.ว. อีกทั้งพรรคเพื่อไทยก็คงไม่ได้มีอำนาจมากพอที่จะไปต่อรองกับใครแล้ว ซึ่งจริงๆ มองว่าอนุทิน ชาญวีรกูล ยังมีโอกาสนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี มากกว่าเศรษฐาด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คาดว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะยังไม่ถึงขั้นสูญพันธุ์ไปซะทีเดียวถึงแม้นายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลายไปเป็นตัวรองแล้วก็ตาม
นอกจากนี้การที่ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาพูดถึงประเด็นต่างๆ นั้น คาดว่าชูวิทย์ มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ หนักแน่นพอสมควร ซึ่งก็น่าคิดว่าหรือชูวิทย์ จะมีคนคอยหนุนหลังจนทำให้ไม่เกรงกลัวอะไรแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบไปยังพรรคเพื่อไทยแน่ โดยเฉพาะการโหวตนายกรัฐมนตรีที่เพื่อไทย มุ่งมั่น เสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งหารู้ไม่ ชูวิทย์และเศรษฐาแท้จริงแล้วเคยขัดผลประโยชน์กันในการค้าขายที่ดินมาก่อนจึงไม่แปลกที่ชูวิทย์ จะคว้าโอกาสนี้เพื่อออกโรงแฉ เศรษฐาแบบไม่หยุดหย่อน
ขณะที่ทางพรรคเพื่อไทยก็โนสนโนแคร์ ชูวิทย์ อีกทั้งล่าสุด พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้ช่วยหาเสียง และอดีต สส.พรรคเพื่อไทย ได้ท้ากลางรายการสับประเด็นว่า ถ้าคุณชูวิทย์ยังติดใจและยังโวยวายในโซเชียลอยู่ ท้าให้เปิดข้อมูลออกมาวัดกันไปเลย เพราะมั่นใจว่านายเศรษฐา ไม่ขัดต่อคุณสมบัตินายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ เพราะมีทีมตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว พร้อมขู่ชูวิทย์ว่า ถ้ายังไม่หยุด ตัวเองก็มีหลักฐานสำคัญ รอแฉกลับเช่นกัน
ทั้งนี้วันที่ 9 สิงหาคม 2566ที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงร่วมกับ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 เสียงพรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง และพรรคละ 1 เสียง 3 พรรค ประกอบด้วย พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย รวม 157 เสียง รวมกับ 71 เสียงพรรคภูมิใจไทย
รวม 228 เสียง แต่คาดว่าจะรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งเร็ว ๆ นี้ก็คงต้องมาจับตาสถานการณ์นี้ต่อไปอย่างไรก็ตามเกมการเมืองก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะจบลงเมื่อใด เพราะประเด็นนายกฯก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่าสรุปแล้วเศรษฐา จะได้เก้าอี้หรือไม่ แล้วถ้าเศรษฐาแห้ว คนต่อไปจะเป็นอุ๊งอิ๊งหรือไม่ หรือจะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดว่าลุงป้อม อนุทิน ก็อาจได้นายกฯเช่นเดียวกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews