เป็นที่จับตามองไม่นอนสำหรับการย้าย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีที่บินกลับมารับโทษตามกฎหมาย แต่ทันทีที่ส่งตัวเข้าไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯผลตรวจสุขภาพพบว่ามีโรคประจำตัวหลายโรคทั้งโรคหัวใจและโรคปอด
ก่อนที่ต่อมาจะมีรายงานด่วนว่าราชทัณฑ์ได้ส่งตัวมามารักษาที่ รพ.ตำรวจ ฉุกเฉินเพราะภาวะแน่นหน้าอกและมีภาวะความดัน โดยตลอดทั้งวันสื่อมวลชนได้เดินทางมาเกาะติดที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรายงานข้อเท็จดังกล่าว ก่อนทื่ทาง รพ.ตำรวจ จะมีการชี้แจงว่า นายทักษิณถูกส่งมารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจจริง และเป็นเรื่องปกติที่ทำกันมาตลอด เพราะทาง รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์มีบันทึกข้อตกลงหรือ MOU ร่วมกันอยู่แล้ว
ด้าน พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เปิดหลังเข้าพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า นายทักษิณ ถูกส่งตัวมาเพราะมีอาการแน่นหน้าอกกะทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก ประกอบอาการป่วยของนายทักษิณ ต้องการแพทย์เฉพาะทางดูแล จึงต้องตัดสินใจย้ายตัว โดย นายทักษิณ ถูกส่งตัวมาด้วยรถราชทัณฑ์ โดยไร้เครื่องพันธนาการเนื่องจากมีความดันโลหิตสูงต้องนำตัวไปพักที่ห้องชั้นที่ 14 ยืนยันว่าไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ เดิมชั้นดังกล่าวใช้เป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วยโควิด 19 และเครื่องปรับอากาศในห้องของ นายทักษิณ ไม่ค่อยเย็น ต้องใช้พัดลมเพิ่ม 2 ตัว ระบายอากาศแทน ยืนยันไม่ใช่ห้องVIP ไม่ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยในชั้นเดียวกันออก เพื่อนายทักษิณแต่อย่างใด
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวว่าในส่วนของอาการป่วยของนายทักษิณ แพทย์ได้รักษาด้วยการให้น้ำเกลือ พร้อมระดมทีมแพทย์ตั้งเป็นคณะรวม 6 ท่าน มีหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และ โควิด19 อยู่ในทีมดังกล่าว ในดูแลความปลอดภัยระหว่างรักษามีเจ้าที่กรมราชทัณฑ์คอยดูแล 3คน แต่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ของสถานีตำรวจนครบาล(สน.)ปทุมวัน ดูแลความปลอดภัยส่วนจะรักษาอาการนานเท่าใด ยังไม่สามารถตอบได้ทีมแพทย์จะเป็นผู้ประเมินต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านายทักษิณ ถูกนำตัวไปพักที่ชั้น 14 ซึ่งเป็นหอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ ซึ่งชั้นดังกล่าวมีอยู่แค่ 2 ปีก ปีกละ 1 ห้อง สำหรับนายทักษิณอยู่ที่ห้อง รอยัล สูท ห้อง 1401 โดยมีรายงานว่าเบื้องต้นทางแพทย์ศัลยกรรมระบบประสาท ได้ให้ยาละลายลิ่มเลือด ยาความดัน ยาคลายเครียด เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำอยู่แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews