“เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน จากนักธุรกิจชื่อดัง สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ไทย จับตาเกมการเมืองต่อ แม้ดีลลับทักษิณ ชินวัตร กลับไทยแล้ว แต่คนข้างกายเศรษฐาคือใครต่างก็คาดว่าจะเป็นคนใกล้ชิดทักษิณหรือไม่ ขณะที่พรรคก้าวไกลประกาศเป็นฝ่ายค้านเต็มตัวพร้อมเชิงรุกตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้น
รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่าแม้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วได้เสี่ยนิด เป็นนายกฯสมใจหลังจากนี้ก็ต้องติดตามดูครม. เพราะตามโผต่างๆนั้นยังไม่ลงตัวนัก
จึงคาดว่าทิศทางการเมืองหลังจากนี้ก็ค่อนข้างเดายากเช่นกัน ซึ่งการที่เศรษฐานั่งนายกรัฐมนตรีฉลุยนั้นจริงๆแล้วเป็นนายกรัฐมนตรีอุปโลกน์ที่ได้ถูกจัดวางโดยกลุ่มคนชนชั้นนำเพราะไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าในเวลานี้ ซึ่งอำนาจจริงนั้นก็ยังคงเป็นทักษิณและลุงตู่ ฉะนั้นสิ่งที่น่าจับตามากที่สุดคือใครจะมาเป็นนายกฯน้อย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพราะมีความเป็นไปได้ว่าบุคคลนั้นอาจจะเป็น นายกรัฐมนตรีตัวจริงหรือไม่
ขณะที่ล่าสุดก็ลือสะพัดสนั่นว่า นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือหมอมิ้ง ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ และประธานคณะกรรมการนโยบาย จากพรรคเพื่อไทย จะเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งจริงๆแล้วหมอมิ้ง ก็เคยอยู่เคียงกายเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของทักษิณมาก่อนด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องมาติดตามว่าจะใช่หมอมิ้ง อย่างที่คาดเดากันจริงหรือ
ทั้งนี้เมื่อครั้นสมัยอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วงหนึ่งก็เคยมีข่าวว่าเศรษฐาเคยช่วยเหลือทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อย่างลับๆด้วย ดังนั้นงานนี้จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าหรือครั้งนี้เศรษฐาต้องใช้บริการ คนที่มีประสบการณ์ที่น่าไว้ใจจากฝั่งของยิ่งลักษณ์หรือจะเป็นคนของฝั่งทักษิณก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชนก็เคยออกมาแฉประวัติอีกด้านของเศรษฐาด้วยว่าในอดีตนั้นเคยเกี่ยวพันกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเชื่อ ว่า เศรษฐา จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 1 ปี ก่อนถูกสอยจากกรณีร้องเรียนต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ชูวิทย์ ออกมาแฉก่อนหน้านี้ อีกทั้ง จตุพร ยังเตือนทักษิณ ผูกปมเรื่องโรค ระวังพัวพันยุ่งเหยิงอีกด้วย
พร้อมกันนั้นวันที่23 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมาได้เกิดปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำขึ้น 2 วงซ้อนกัน บริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่ฝนตก และหลังมีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าหรือจะมีนายกฯซ้อนนายกฯอีกที ก็ถือว่าเป็นสีสัน ฮือฮากันทั่วหน้าเลยทีเดียว
นอกจากนีวันที่25-26 ส.ค.2566 นั้น เศรษฐา ได้ลงพื้นที่ ภูเก็ต-พังงา เพื่อรับฟังปัญหาเอกชนพร้อมหนุนท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวคือประตูรายได้ที่สำคัญ และรวดเร็วที่สุดในการกระจายรายได้ให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงตั้งเป้าหมายกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของพรรค ดังนั้น จะรุกหนักในเรื่องการท่องเที่ยว โดยจะปรับโฉมสนามบินทั่วประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
อย่างไรก็ตามแม้เศรษฐา นั่งนายกฯแล้วแต่เส้นทางการเมืองนับจากนี้จะนิ่งได้จริงหรือ เพราะตัวทักษิณ ก็ดูเหมือนว่าจะยังสำคัญต่อการเมือง ซึ่งหากผลสรุปมาว่าหมอมิ้งควบตำแหน่งเลขาธิการนายกฯจริงก็น่าคิดว่า ทักษิณยังคงเป็นตัวละครหลักในเกมการเมืองนี้ใช่หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews