การส่งออกของประเทศล่าสุดในช่วง 7 เดือนแรกของปียังคงติดลบอยู่ที่ร้อยละ 5.5 แต่เริ่มมีความหวังมากขึ้นหลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่และ เชื่อว่าจะมีคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้เร็วๆนี้
โดยนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. บอกว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ คือ การส่งออกของประเทศ จะเห็นได้ว่า สถานการณ์การส่งออกมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทย รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ 3 ประเด็นหลักประกอบด้วย
-การเร่งรัดมาตรการป้องกันและช่วยเหลือทางด้านสินค้าเกษตร รวมถึงการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ เพราะมีความสำคัญต่อภาคเกษตรเป็นอย่างมาก จากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยปัจจุบันสินค้าเกษตรมีสัดส่วนร้อยละ 12-13 ในการส่งออกของไทย
-การชะลอของเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยรัฐบาลจะต้องดำเนินการเพิ่มศักยภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิตให้ดี เพราะการส่งออกจะต้องแข่งขันกับสินค้าที่หลากหลาย ในหลายประเทศ ดังนั้น ในเรื่องต้นทุน อาทิ ค่าไฟฟ้า น้ำมัน จะต้องควบคุมให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้
และเร่งดำเนินการสร้างความสัมพันธ์ รวมถึงความเชื่อมั่น โดยเชื่อมต่อระหว่างนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ และนโยบายเดิมของรัฐบาลที่ผ่านมาทั้ง เรื่อง FTA ที่ดำเนินการแล้วก็ให้ดำเนินการต่อไป โดยหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่คงต้องรอความชัดเจนก่อน ซึ่งภาคเอกชนต้องการรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ และได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ เพื่อดำเนินการตามภารกิจเร่งด่วนด้านการส่งออกทั้ง 3 ประเด็นข้างต้น จึงถือเป็นความท้าทายสำหรับรัฐบาลเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ในส่วนของภาคการส่งออกนั้น ต้องการรัฐมนตรีที่มีความเข้าใจบริบทการค้าระหว่างประเทศ และต้องเข้าใจเรื่องโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน ระหว่างประเทศเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน สามารถมองภาพระดับมหาภาพได้ และต้องเป็นที่ยอมรับ สามารถที่จะผลักดันการทำงานได้ทันที
ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปีนี้สรท. มองว่า ความจริงที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ จีน ยุโรป ที่ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังช่วงที่เหลือของปีว่าจะเป็นเช่นไร
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่สำคัญคือ การมองไปข้างหน้า ที่จะต้องทุ่มเทผลักดันในเรื่องของการส่งออก ว่าสินค้าชนิดใด ยังสามารถเติบโตต่อไปได้ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ ข้าว น้ำตาล โดยต้องติดตามว่า ผู้ประกอบการเหล่านี้ ติดปัญหาเรื่องใด จะต้องเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือ
สินค้าอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องมีการผลักดัน ไปยังประเทศจีนและตะวันออกกลางมากขึ้น รวมถึงสินค้าเม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ ซึ่งมีความสอดคล้องกับซัพพลายเชนในจีน จะต้องหาตลาดใหม่มาทดแทนตลาดหลัก รวมถึงในปีหน้าที่การส่งออกจะต้องมีการผลักดันอย่างเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากจะมีปัจจัยในเรื่องภัยแล้งเข้ามาเป็นปัจจัยเสี่ยง หากไม่มีการเตรียมความพร้อมก็จะส่งผลต่อการส่งออกในภาพรวม โดยเฉพาะสินค้าเกษตรของไทยได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
