ชัดเจนแล้วกับโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 1” ที่หลายคนสมใจเป็นรัฐมนตรี ตามการแบ่งเค้กจัดสรรโควต้าพรรคร่วมรัฐบาล
ซึ่งในมุมมองภาคเอกชนคิดเห็นอย่างไร กับโฉมหน้าครม.”เศรษฐา 1″ และทิศทางเศรษฐกิจไทยนับจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท รวมถึงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาท จะทำได้หรือไม่
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถามประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย “นายสนั่น อังอุบลกุล” ที่ในอีกบทบาท เขาคือหนึ่งในคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรีอ กกร.
โดย “นายสนั่น”กล่าวว่า หอการค้าไทยเชื่อว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้จะมีทิศทางเป็นบวกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ทราบหน้าตา ครม. ชุดใหม่อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย โดยหลายตำแหน่งก็เป็นบุคคลที่อยู่ในพรรคที่เคยบริหารกระทรวงดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยให้เกิดความต่อเนื่องของบางนโยบาย รวมถึงมีประสบการณ์ในการบริหารงานต่อได้ทันที จึงมั่นใจว่าจะได้เห็นภาพนโยบายและมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระทรวงต่าง ๆ ชัดเจนมากขึ้นหลังจากนี้ ทั้งนี้ หอการค้าฯ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้กลับมาเติบโตได้โดดเด่น และทำให้ภาพรวมสามารถเติบโตตามเป้าหมายได้ 3%
ส่วนนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของรัฐบาลเพื่อไทย ที่นายกฯเศรษฐา ยืนยันว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 1 ปี 2567 เรื่องนี้ “นายสนั่น”กล่าวว่า ในหลักการสามารถทำได้แต่ต้องประเมินผลความคุ้มค่าในแง่เศรษฐกิจให้ชัดเจนและรอบด้าน โดยหอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่านโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ในวงเงินราว 5.6 แสนล้านบาท จะช่วยกระตุ้น GDP ให้เพิ่มขึ้นได้ 3 – 4% และคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2 – 3 รอบ หรือคิดเป็น 1 – 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะช่วยดึงกำลังซื้อภายในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้งได้ทันที ทำให้ GDP ของไทยในปีหน้าขยายตัวได้ราว 5% ภายใต้เงื่อนไขการส่งออกที่สามารถขยายตัวได้ 3 – 5%
และสำหรับประเด็นข้อเร่งด่วนที่หอการค้าฯ ต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลใหม่เพื่อให้เร่งดำเนินการทันทีในช่วง 100 วันแรก ของการรับตำแหน่ง ได้แก่
1) การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และลดต้นทุนภาคเอกชนทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า ที่ยังอยู่ในระดับสูง
2) เร่งเสริมความโดดเด่นภาคการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้าย
3) เร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังค้างท่ออยู่ และจัดทำงบประมาณรายจ่าย 2567 ให้เกิดความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ทั่วประเทศ
ส่วนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาท ในปี 2570 เรื่องนี้ “นายชาลี ลอยสูง” รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย หรือ คสรท. กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ปัจจุบันอัตราค่าแรงขึ้นต่ำเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 354 บาท ซึ่งการขึ้นค่าแรงก็เชื่อว่าน่าจะทำได้ แต่ยอมรับว่า เป็นนโยบายที่ท้าทายมาก แต่ถ้าทำได้ ก็ต้องควบคุมราคาสินค้าด้วย
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า วันนี้ความเชื่อมั่นในการลงทุนเพิ่มขึ้น ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่มีประสบการณ์ เคยบริหารเศรษฐกิจของประเทศมาก่อน จะได้รับการตอบรับจากเอกชนไทยและต่างชาติ ซึ่งระยะสั้นนโยบายการคลังจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ระยะกลาง-ระยะยาวนโยบายการปรับโครงสร้างประเทศ จะช่วยยกระดับศักยภาพการผลิตไทย
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการทำงานของรัฐบาลใหม่ “เศรษฐา 1” อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เพราะทุกการขยับ ทุกการออกมาตรการ ย่อมหมายถึงความเชื่อมั่นที่จะส่งผลต่อเรทติ้งนายกรัฐมนตรีและความเก่งของรัฐบาลมืออาชีพนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews