จากอดีตถึงปัจจุบัน เรามักจะเห็น ทายาทตระกูลการเมืองดัง ให้ ทั้งลูกและหลาน ลงสมัคร ส.ส. ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรี สานต่อความเป็นบ้านใหญ่ของแต่ละพื้นที่
สืบต่อกันมาหลายรุ่น เช่นตระกูล “ศิลปอาชา”แห่งเมืองสุพรรณบุรี, ตระกูลชิดชอบของบุรีรัมย์, ตระกูลเทียนทอง ที่สระแก้ว ,ตระกูล สะสมทรัพย์ เมืองนครปฐม ตระกูลอยู่บำรุง ย่านบางบอน หรืออีกหลายตระกูล ที่พ่ายแพ้กระแสก้าวไกล จนสูญพันธ์ ไม่ได้เข้าสภาในรอบนี้
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะหมดยุค การเดินตามรอยเท้าพ่อ บนเส้นทางการเมือง ของบรรดาบ้านใหญ่ เพราะบ้านใหญ่อีกหลายหลัง ยังคงได้ไปต่อ และได้รับตำแหน่งเสนาบดีสืบทอดต่อเนื่องด้วยเช่นกัน อย่าง “ศิลปอาชา
หรือชิดชอบ” เป็นต้น และยิ่งไปกว่านั้น “อนุทิน ชาญวีรกุล” หรือ “เสี่ยหนู” ที่ใครๆ เรียกกัน คืออีกตัวอย่างที่ดี ของการเดินตามเส้นทางที่พ่อเคยเดิน แม้จะเข้าสู่การเมืองก่อนคุณพ่อ แต่เมื่อติดร่างแหบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย
ต้องเว้นวรรคไป 5 ปี ก็ให้คุณพ่อชวรัตน์ มารับช่วงการเมืองแทน และในระหว่าง 5 ปี ที่ “อนุทิน” หายไป คุณพ่อชวรัตน์ หรือที่เรียกกันว่า “ปู่จิ้น” ซึ่งเคยเป็นรองนายกฯ ให้ กับ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” และเป็นนายกฯรักษาการด้วย
เมื่อครั้ง “สมชาย”พ้นตำแหน่ง “พลังประชาชน” ถูกยุบอีกในเวลาต่อมา จนเกมการเมืองพลิกขั้ว เปลี่ยนค่าย “ปู่จิ้น” พร้อม สส.กลุ่ม”เพื่อนเนวิน” ก็แยกมาสังกัดภูมิใจไทย ได้เป็นหัวหน้าพรรคในเวลาต่อมา และเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย
หรือ มท.1 ในยุคของ”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ด้วย ดังนั้น เวลานี้ เมื่อรัฐบาลเพื่อไทย “เศรษฐา1″เผยโฉมอย่างชัดเจนแล้ว “อนุทิน” นั่งมท.1 และ เข้ากระทรวงเป็นทางการ พร้อมกับมีข้อสั่งการแรก ขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล หรือมาเฟีย
ในแต่ละจังหวัด ก็เรียกเสียงฮือฮาได้มากทีเดียว ไม่ต่างจากเมื่อครั้ง พูดถึง โควิด 19 เป็นโรคกระจอก
แม้ “อนุทิน” จะเข้าสู่การเมืองก่อน “คุณพ่อชวรัตน์” และเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ในยุคไทยรักไทย แต่เป็นได้แค่รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์เท่านั้น ก่อนผู้เป็นพ่อ ซึ่งมาทีหลัง มาเป็นมวยแทน กลับได้ตำแหน่งที่ใหญ่กว่า สูงกว่าไปก่อน เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข ในยุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เป็นรองนายกฯ ในสมัย “สมชาย วงศ์สวัสดิ์”และ เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย เมื่อครั้ง”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกตำแหน่ง ที่ “ปู่จิ้น” ได้เป็น ในช่วงที่ “อนุทิน” เว้นวรรค 5 ปี เมื่อพ้นโทษแบนกลับมาแล้ว “เสี่ยหนู”ก็เดินตามเส้นทางที่พ่อเคยเดินได้ทั้งสิ้น
จากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก่อน ตามติดมาด้วย ตำแหน่งรองนายกฯ ตำแหน่ง รัฐมนตรีสาธารณสุข และรัฐมนตรีมหาดไทย โดย “อนุทิน”เดินตามได้แบบไม่ตกหล่น แถมเหนือกว่าพ่อเล็กน้อย เพราะเป็นรองนายกฯควบรัฐมนตรีว่าการ ทั้ง 2 ตำแหน่ง เหลือเพียงตำแหน่งรักษาการนายกฯ เท่านั้น ที่”อนุทิน” ยังไปไม่ถึงและยังไม่อาจเทียบเท่าคุณพ่อได้ แต่เมื่อดูเส้นทางการเมือง และอายุของ”เสี่ยหนู”
ก็ถือว่ายังมีโกาสทำได้ เพราะเวลานี้เป็นรองนายกฯของ “เสี่ยนิด-เศรษฐา” แม้จะอยู่ไกลถึงอันดับ 4แต่ด้วยอายุเพียง 56 ปี มีโอกาสไปถึงตำแหน่งนั้น สักวันใดวันหนึ่งนั้นค่อนข้างเปิดกว้าง หรืออาจเดินได้ไกลกว่า ที่”ปู่จิ้น” เคยเป็น หากเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยได้รับเลือกจากประชาชนเข้าสภามากกว่าเดิม…
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews