น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี ซึ่งเปรียบเสมือนดัชนีชี้วัดฝีมือรัฐบาลในการบริหารประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แต่ในปีนี้ เป็นอีก 1 ปีที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับมรสุมปัจจัยลบมากมาย ทั้งการส่งออกซึ่งถือเป็นหนึ่งในพระเอกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความมั่งคั่ง โตไม่เป็นตามเป้าหมาย
หรือแม้กระทั่งภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้าออกไป อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า
ล่าสุด หอการค้าไทย โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้ปรับลดประมาณจีดีพีปีนี้ลง โดยขยายตัวที่ร้อยละ 3 จากเดิมที่ประเมินไว้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2565 ที่ร้อยละ 3.6 ส่วนการส่งออกติดลบร้อยละ 2 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว ร้อยละ 1.2 ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐก็ติดลบเช่นกัน ร้อยละ 2.8 จากเดิมคาดติดลบ ร้อยละ 0.3 ส่วนเงินเฟ้อ ปรับลงเหลือ ร้อยละ 1.8 จากเดิมคาดจะโตร้อยละ 3
โดย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การปรับลดจีดีพีปีนี้ลงเป็นเพราะเศรษฐกิจโลกยังมีปัญหาฉุดการส่งออก รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ทำให้เศรษฐกิจไทย มีแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐน้อยกว่าที่คาดไว้
ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจไทยถูกปรับลดประมาณการณ์ลง ทำให้ไตรมาส 4 ปีนี้ “นายธนวรรธน์” บอกว่า เป็นไตรมาสที่จะพิสูจน์ฝีมือของรัฐบาลในเรื่องเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ได้ปรับลดจีพีดีปีนี้ลง จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ร้อยละ 3.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.8 จากเศรษฐกิจชะลอลงจากภาคการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด แต่ปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.4 จากเดิมร้อยละ 3.8 โดยมีแรงหนุนหลักจาก Digital wallet คาดว่าจะทำให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 0.3-0.6 เท่า ของจำนวนเงินที่อีดฉีดทั้งหมด ส่งผลให้ GDP ปีหน้าโตอย่างน้อย 4%
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขยับออกมาตรการใหม่ๆ ย่อมสะท้อนถึงฝีมือของ “รัฐบาลเศรษฐา 1” เชื่อมโยงกับความเชื่อมั่นนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
