เส้นทางการเมืองของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเขาโดนมรสุมพัดพาเข้ามาในชีวิตอย่าง แสนสาหัส ทั้งเรื่องคดีกฎหมาย โดนตัดสิทธ์การเมืองและยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งวันนี้เขาอายุครบ 45 ปี เชื่อว่าก็คงมีบรรดาแฟนคลับมาร่วมอวยพรในวันเกิด
ซึ่งเขาเกิดวันที่ 25 พ.ย.2521 เป็นหลานของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองนายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมือง ในปี2561 ซึ่งในตอนที่เริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่นั้นมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และนางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือช่อ อดีตส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ อดีตโฆษกคณะกรรมการของพรรคอนาคตใหม่ และแกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมขบวนด้วย แต่กลับต้องเจอมรสุมทำให้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเพราะ ธนาธร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาทซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2560 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
โดยหลังจากที่พรรคของเขาถูกยุบจากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญใน 2563 ธนาธร ปิยบุตร และช่อ ได้ถูกศาลตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลาถึง 10 ปี ซึ่งธนาธรและคณะกรรมการบริหารพรรคได้ตั้งกลุ่มคณะขึ้นมาใหม่โดยให้ชื่อว่า คณะอนาคตใหม่ ต่อมาในอีกหนึ่งเดือนหลังจากนั้น คณะอนาคตใหม่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น คณะก้าวหน้า เพื่อเลี่ยงข้อกฎหมายพรรคอนาคตใหม่จึงได้ส่งมอบเจตนารมณ์ทางการเมืองให้พรรคก้าวไกล โดยธนาธรชูนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล มารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าของพรรคเพื่อสานต่ออุดมการณ์จนทำให้พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งในปี 2566
และตัวพิธา มีแฟนคลับอย่างล้นหลาม แต่แล้วช่วงเวลาแห่งความสุขก็ใกล้หมดลงไปเรื่อยๆ เพราะพิธา ก็อาจจะหนีไม่พ้นชะตากรรมเดียวกันกับเขาในเรื่องของกฎหมาย โดย 20 พ.ย.2562ธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า สิ้นสุดความเป็น ส.ส.
จากคดีถือหุ้นสื่อ ขณะที่พิธา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตั้งแต่ 19 ก.ค. พ.ศ. 2566 พร้อมกันนั้นทั้งธนาธรและพิธาต่างเคยได้รับการเสนอชื่อชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกด้วยแม้ตอนนี้มีหัวโขนทางการเมืองผู้นำจิตวิญญาณคณะก้าวหน้าอย่างธนาธร ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศาสดาสีส้มนั้นจะไม่มีบทบาทการเมือง แต่เขาก็ยังคงเกาะสถานการณ์การเมืองอยู่ตลอดเวลาดูได้จากการที่เขาไปพบทักษิณที่ฮ่องกง นั่นก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเขายังคงมีความสำคัญอยู่แต่ด้วยเรื่องกฎหมายจึงทำให้เขาเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้มากนัก
ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมาเขาได้ไปออกรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ พร้อมยอมรับว่าในช่วงก่อนการจัดตั้งรัฐบาลได้เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะฮ่องกง จริงซึ่งเขารู้สึกเสียใจและเจ็บปวด ที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล แต่ก็เข้าใจข้อจำกัดของพรรคเพื่อไทย
เพราะสำหรับเขา พรรคเพื่อไทย คือมิตร และทางออกที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าต้องมี 2 พรรคนี้ อีกทั้งเขายังบอกด้วยว่า เราพบปะพูดคุยกับนักการเมืองเป็นปกติทั่วไป มีการพบปะกับทักษิณแต่คุยเรื่องชีวิตมีหลานแล้วเป็นอย่างไร และไม่ได้ไปต่อรองเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเพราะเขาไม่มีตำแหน่งในการเมือง และอาจจะโดนยุบพรรคได้ หากไปต่อรอง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะไม่มีอำนาจทางการเมืองแล้ว แต่เขาก็ยังคงถูกจับตาและพูดถึงอยู่ตลอด ขณะที่พิธาเองก็รอลุ้นชะตากรรมว่าจะเป็นอย่างไรจะซ้ำรอยธนาธรอีกหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews