พรรคเพื่อไทยต้องฝ่าฟันกระแส ต่อสู้กับแรงกดดันท่ามกลางดราม่าที่ใครหลายคนต่างจับจ้องนโยบายที่รับปากว่าจะทำได้และทำได้แน่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับมีประเด็นอื่นโผล่มาอย่างมากมายจนตอนนี้ก็พากันต่าง
จับตาว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นจะทำได้จริงมากน้อยเพียงใด เพราะคนที่รอคำตอบก็คงหนีไม่พ้นประชาชนนั่นเองผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่าจากประเด็นต่างๆไม่ว่าจะเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาท,แก้รัฐธรรมนูญ,แก้หนี้นอกระบบ,ซอ
ฟพาวเวอร์,หมูเถื่อน,ปมทักษิณ,ส่วยรถบรรทุก,คดีกำนันนกและคดีเสี่ยแป้ง ฯลฯ จึงทำให้ทุกคนต่างจับตาไปที่รัฐบาลเศรษฐาว่าแต่ละนโยบายจะทำได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่พรรคเพื่อไทยเจอแรงกดดันจาก
นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ที่ออกมาคัดค้าน เพราะถือว่าดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เป็นการเดิมพันที่สูงมากทีเดียว ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยทำไม่ได้ แน่นอนว่าจะกลายเป็นแผลในใจที่ส่งผลกระทบระยะยาวไปถึงการเลือกตั้งในสมัยหน้า เพราะอาจจะทำให้พรรคการเมืองคู่แข่งหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาโจมตีเพื่อไทยถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายอื่นก็ตาม
แต่ในขณะเดียวกันหากพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบสำเร็จ นั่นก็อาจจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่จะไปลบล้างเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตได้ ส่วนเรื่องหมูเถื่อนนั้นก็คือผลพวงมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้วซึ่งอันนี้รัฐบาล เศรษฐาอ้างได้เช่นกัน ส่วนประเด็นอื่นๆ นั้น รัฐบาลเศรษฐาต้องประนีประนอมข้าราชการชุดเก่าหากจะทำอะไรต้องระมัดระวัง
ทั้งเรื่องการโยกย้าย หรือร้องเรียนต่างๆ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีภูมิคุ้มกันในเรื่องดังกล่าว และรัฐบาลต้อง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใดจากหลายๆประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วทุกเรื่องก็คือการซื้อเวลา และไม่สามารถยืดเยื้อได้ ขณะที่ปมทักษิณ ชินวัตร ก็ถึงที่สุดของคดีไปแล้ว
ทั้งนี้ประเด็นหลักที่ทำให้ความนิยม ความเชื่อมั่นของรัฐบาลเศรษฐาลดลง นั่นคือปัญหาความหนักแน่นเรื่องการสื่อสารไปยังประชาชน ที่นำไปสู่การตีความในแง่ลบ นับตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้งจนทำให้ถูกจับตาเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเล่มเกมการเมืองแบบเดิม ไม่มีความสร้างสรรค์ รวมถึงการมีส่วนร่วมของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นก็มีจำกัด เพราะช่วง100วันที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่านายกเศรษฐาดูโดดเดี่ยวมากเกินไป ซึ่งจะมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ที่ออกมายืนอยู่เคียงข้างเศรษฐา แต่คนที่โดดเด่นมากที่สุด คือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมาโต้แทนนายก ทั้งประเด็นเงินดิจิทัล นิรโทษกรรม เป็นต้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะมีความแตกต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ อยู่นานหลายปี แถมยังเป็นบุคคลที่มีต้นทุนความน่าเชื่อถืออีกด้วย
พร้อมกันนั้นด้วยความที่เศรษฐา ไม่ได้เป็นส.ส.มาก่อน ดังนั้นพลังขับเคลื่อนต่างๆในมิติด้านการเมืองจึงทำให้คนหันไปโฟกัสและสนับสนุนที่ตัวนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสียมากกว่า ซึ่งภาย หลังจากผ่านพ้น1ปีไปแล้วก็คงจะเห็นภาพและตอบได้ชัดว่าเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง จะมีศักยภาพมากพอที่จะอยู่ครบวาระ4ปีหรือไม่
อย่างไรก็ตามประเด็นดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นก็ยังคงถูกพูดถึงไม่ตกว่าพรรคเพื่อไทยจะทำได้อย่างที่พูดจริงหรือไม่ และถ้าหาก1หมื่นล้มเหลวก็คงต้องมาจับตากันต่อว่าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบจะสำเร็จหรือไม่ หากสำเร็จ ก็คาดว่า จะทำให้ซื้อใจคนและหักล้างดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นก็เป็นได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews