จับสัญญาณเศรษฐกิจไทยโค้งสุดท้ายปี 2566 เชื่อมปีใหม่ ปีแห่ง “มะโรงงูใหญ่” หลังศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 พบว่า คนส่วนใหญ่ 86% มองว่าบรรยากาศปีใหม่คึกคักมากขึ้น โดยจะมีเงินสะพัด 105,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8%YoY และสูงสุดในรอบ 4 ปี
ซึ่งการใช้จ่ายส่วนใหญ่ที่ผลักดันให้มีเม็ดเงินสะพัดมากถึง 1 แสนล้านบาทนั้น จะอยู่ในส่วนของการท่องเที่ยว โดยการท่องเที่ยวในประเทศมีมูลค่ากว่า 54,000 ล้านบาท และต่างประเทศกว่า 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ “รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย” อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ขยายความว่า สัญญาณการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย โดยประชาชนเลือกที่จะเดินทางในระยะใกล้มากขึ้น เลือกที่จะกลับบ้าน มากกว่าท่องเที่ยวในพื้นที่ไกลๆ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ ไม่เป็นไปตามคาดและมองว่าอาจโตต่ำกว่าร้อยละ 2.5 ในปีนี้ โดยยังไม่สดใสและยังไม่มีภาพของการฟื้นตัวอย่างชัดเจน แม้การส่งออกจะเริ่มกลับมาบวก การท่องเที่ยวจะดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถพลิกบรรยากาศเศรษฐกิจกลับมาโดดเด่นได้ ปีหน้าขยายตัว ร้อยละ 3.1-3.3
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าเหมา หรือ รถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) “ดร.วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เศรษฐกิจปีหน้าจะดีขึ้น โดยการท่องเที่ยวจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยปัจจุบันทั้งอุตสาหกรรมรถเช่าเหมามีให้บริการอยู่ 15,000 คัน ซึ่งถ้าการท่องเที่ยวดี ธุรกิจก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
“อยากให้กระตุ้นท่องเที่ยวตามที่นโยบายที่ทำออกมาช่วงที่ 3-4 เดือนที่ผ่านมา อันนั้นเป็นนโยบาย แต่ว่าปีหน้าก็อยากให้มีการขับเคลื่้อนที่จริงจัง โปรเจ็กต์ต่างๆ ในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการขนส่งทางบก ก็อยากให้มีการเดินทางโดยรถยนต์เพิ่มขึ้น หรือแม้กระทั่งนโยบายในเรื่องของการเปลี่ยนรถ เป็นรถอีวี เป็นรถไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษอะไรต่างๆ ตรงนี้ก็อยากให้มีนโยบายที่ชัดเจน รวมถึงโครงการต่างๆ ในการสนับสนุนในการเปลี่ยนรถ ไม่ว่าจะเป็นการเอารถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า หรือว่าโครงการพักชำระหนี้ เพราะว่าช่วงโควิดที่ผ่านมา ผู้ประกอบการของรถติดภาระหนี้สินค่อนข้างที่จะเยอะ ก็อยากให้ที่จะมีการดูแลตรงนี้ด้วยเยอะ ๆ เพื่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการ และจะได้กลับมาประกอบธุรกิจ นำรายได้เข้าประเทศได้เหมือนเดิม”
ส่วนประเด็นเรื่องการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาทนั้น “ดร.วสุเชษฐ์” มองว่า เป็นเรื่องดี แต่จะดีมากขึ้น ถ้ารัฐบาลประกาศตรึงไปยาวๆ เพื่อที่ผู้ประกอบการจะได้วางแพลนแผนธุรกิจในการราคาทัวร์
“ก็ ณ ตอนนี้ยังโอเคอยู่ แต่อยากให้ตรึงยาวๆ เพราะว่าบางทีทิศทางในการแพลนงานระยะยาว เช่น ในกรณีการดีลงานกับต่างชาติ มันก็มีความจำเป็นในเรื่องของการทำราคาทัวร์ซีรีส์ อย่างเช่นสมมติตรึงถึงเดือนมีนาคม ถ้าเกิดสมมติเมษายน พฤษภาคม หรือไฮซีซั่นปีหน้า ปรับราคาขึ้นมา เราก็จะทำราคาเสนอต่างชาติไม่ได้ คือให้ตรึงราคานี้ไม่ให้เกินนี้ ลงกว่านี้ได้ยิ่งดี แต่ถ้าตรึงราคาสูงสุดอย่าให้เกิน 30 บาทตรงนี้ คิดว่าเราอยู่ได้”
และนี่ก็เป็นทิศทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับธุรกิจรถเช่าเหมา รวมทั้งบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีเม็ดเงินสะพัดมากถึง 1 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 4 ปี นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
