“เราเที่ยวด้วยกัน” ไพ่ใบสุดท้ายท่องเที่ยวสงกรานต์(click ดูวีดีโอ)
“เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ความหวังสุดท้ายของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ณ เวลานี้ที่ล่าสุดโดนครม.ตีกลับ เนื่องจากมีความกังวลการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ แถมเดือนหน้าประเทศไทยเรากำลังจะมีเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปีก่อนเจอโควิดระบาด ทำให้ใครหลายคนต้องนอนซมอยู่บ้าน แต่ปีนี้เมื่อโควิดเริ่มคุมอยู่ วัคซีนทยอยนำเข้ามาแล้ว ใครหลายคนเริ่มวางแผนเดินทางกลับบ้าน เล่นน้ำสงกรานต์ แต่แล้วเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ เมื่อมติศบค.ห้ามเล่นสาดน้ำ ประแป้ง แสดงคอนเสิร์ต แต่ให้เน้นมีการทำบุญ ตักบาตร รดน้ำดำหัว ไหว้ญาติผู้ใหญ่ และยังให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ คำถามต่อมา คนจะยังออกเดินทาง กลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว ใช้จ่ายตามแผนรัฐบาลหรือไม่ และถ้าไม่มีโครงการออกมากระตุ้น บรรยากาศสงกรานต์ 64 จะอออกมาในทิศทางไหน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย ผู้ให้บริการรถทัวร์ โดยเปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เหส 3 คือ ความหวังเดียวของภาคธุรกิจที่จะหวังให้การท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์คึกคึก แต่ล่าสุดที่ครม.ตีกลับแผน เนื่องจากมีความกังวลรอยรั่วการทุจริต และอีกไม่กี่สัปดาห์จะใกล้ถึงเทศกาลแล้ว จึงไม่มั่นใจว่า โครงการนี้จะมีผลทันใช้หรือไม่ และถ้าหากโครงการออกมาไม่ทันใช้ในช่วงสงกรานต์นี้ ท่องเที่ยวจะทรุดหนักขนาดไหน ผู้ประกอบการต้องรอไปอีกกี่เดือนกว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้
ขณะที่ยอดการเช่ารถในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เดิมทีเอกชนมีความคาดหวังมากว่า จะเกิดการเดินทาง ท่องเที่ยวและใช้จ่ายคึกคักนั้น สุดท้ายบรรยากาศคงไม่ต่างจากช่วงที่ผ่านๆมา ซึ่งล่าสุดยอดการจองรถมีจำนวนน้อยมาก ส่วนสิ้นเดือนนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบันหรือไม่ส่วนตัวไม่อยากคาดหวังแล้ว
ส่วนมติของศบค.ที่งดให้สาดน้ำนั้น อาจไม่ได้มีผลมากสำหรับคนที่วางแผนไว้แล้วในช่วงสงกรานต์ และมองว่าส่วนใหญ่เป็นการกลับบ้านพักผ่อนหรือรวมญาติมากกว่าการท่องเที่ยว เพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่มีกำลังซื้อ มาตรการรัฐไม่ตรงจุด ใครจะกล้าควักเงินออกมาเที่ยวในช่วงนี้
โดยเรื่องนี้สอดคล้องกับความเห็นของนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มองว่า การจำกัดกิจกรรมเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ย่อมส่งผลให้บรรยากาศจะไม่คึกคักอย่างที่ได้มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลกับเม็ดเงินสะพัดไม่น่าจะถึง1.4แสนล้านบาท โดยจะมีการประเมินตัวเลขใหม่อีกครั้งในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ โดยมองว่า หากไม่มีการปิดล็อกดาวน์พื้นที่ จำกัดการเดินทางจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งล่าสุดในพื้นที่ตลาดบางแคสามารถควบคุมได้ ในช่วงระยะเวลาก่อนถึงการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ เชื่อว่าเม็ดเงินจะไม่หายไปมากนัก อาจจะเหลืออยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท
สุดท้ายนี้ แม้ว่า ใครหลายคนฟันธงแล้วว่า ยังไงๆสงกรานต์ 64 ไม่คึกคักแน่นอน แต่ถ้าหากการเดินทางยังสามารถดำเนินได้ตามปกติ ดังนั้น ภาคการท่องเที่ยวเองก็ยังคงมีหวังอยู่ และที่สำคัญนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ออกมายืนยันแล้วว่า การประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ จะเสนอโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ให้ที่ประชุมพิจารณา เราจึงต้องมารอลุ้นกันว่า จะได้เฮ หรือ จะได้โฮกัน เพราะโครงการนี้ถือเป็นไพ่ใบสุดท้ายของรัฐบาลในการพยุงภาคท่องเที่ยวแล้ว แต่หากสุดท้ายครม.เมินใส่ นายกตีกลับแผนรอบ 2 หรือไม่ทันใช้ในช่วงสงกรานต์นี้ คงไม่มีอะไรน่าสงสารไปกว่า “ธุรกิจภาคท่องเที่ยวในยุคลุงตู่”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news