การกลับสู่ฐานที่มั่น “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” หลังได้รับการปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลตำรวจตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ทำให้กระดานอำนาจทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบทบาทการเป็นกุนซือให้กับรัฐบาลเศรษฐา ในฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ การเมืองที่ในวันนี้ มีการเดิมพันแข่งขันสูง ล่าสุด “กรมคุมประพฤติ” ได้ออกมาย้ำข้อกำหนด “5 ให้ 5 ห้าม” สิ่งที่ “อดีตนายกฯทักษิณ”สามารถทำได้และห้ามทำ ระหว่างการพักโทษ
แต่ไฮไลท์สำคัญที่ใครๆ ก็อยากรู้นั่นก็คือ “อดีตนายกฯทักษิณ” สามารถดำรงตำแหน่งนั่งในบอร์ดกรรมการหรือไปเป็นที่ปรึกษาในทางการเมืองได้หรือไม่ในระหว่างการพักโทษ ซึ่งเรื่องนี้กรมคุมประพฤติยืนยันว่า สามารถทำได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องไปดูว่าบอร์ดกรรมการนั้น ๆ หรือตำแหน่งที่ปรึกษาในทางการเมืองนั้นๆ มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งโดยมีข้อยกเว้นประการใดหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น มีข้อห้ามไม่ให้ผู้ที่เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดมาดำรงตำแหน่งหรือไม่ เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อกติกาไม่ได้ห้าม ทำให้ทุกแง่มุมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านการออกนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา คิดใหม่ ทำใหม่ ที่มี “อดีตนายกฯทักษิณ” ร่วมนั่งเป็ณกุนซือข้างกาย จึงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด
โดย “รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์” นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เป็นเรื่องดีที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตรจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลเพราะเป็นคนเก่ง มีความรู้ ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจ มีความแน่นเฟ้นกับต่างชาติ สามารถนำประสบการณ์ต่างๆ มาร่วมพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องระวังเรื่องการถูกมองว่ามี 2 รัฐบาล รวมทั้งนโยบายที่ออกมานั้นจะต้องไม่สร้างปัญหาให้กับพรรคร่วมรัฐบาล
“คุณทักษิณเองก็เป็นคนที่มีประสบการณ์ แล้วก็มีความรู้ เพราะฉะนั้นก็คงจะให้คำปรึกษา ตอนนี้ก็พูดได้ง่ายๆว่าจะทำหน้าที่ได้กว้างขึ้นดีขึ้น ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่ารัฐบาลเองต้องพึ่งพาเรื่องของคำปรึกษาหารืออะไรต่างๆ เพราะฉะนั้นในกรณีนี้นั้น ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่รัฐบาลจะได้เพิ่มมากขึ้น แต่ว่าสิ่งที่สำคัญก็คือว่าความรู้หรือต่างๆเหล่านี้นั้น มันก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องอีกภาพนึงก็คือเรื่องของภาพลักษณ์ เพราะฉะนั้นต้องระวังในลักษณะ ก็เพราะจะมีฝ่ายบางคนก็มองเหมือนกับว่าเป็นรัฐบาลซ้อนรัฐบาล เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ ก็ต้องพยายามที่จะเรียกว่า ทำให้บทบาทตัวนี้ ในลักษณะที่ไม่ใช่เด่นชัด จนกระทั่งไปมีความรู้สึกเป็นการครอบรัฐบาล เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ก็จะทำให้เป็นผลดีในแง่ไม่มีภาพลักษณ์ในลักษณะเป็นเพียงแค่การให้คำปรึกษา เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่มีทั้งดี แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ อย่าให้มันมีความรู้สึกว่ามีรัฐบาลซ้อนรัฐบาล ซึ่งในขณะนี้เราก็จะเห็นได้ว่าก็มีบางกลุ่มออกมาพูดในทำนองว่ามี 2 รัฐบาล 3 รัฐบาล แต่อันนี้ผมคิดว่าคงไม่พูดอย่างนั้นไม่ได้ เราจะต้องมาดูว่าการปรึกษาหารือนั้น จะมีลักษณะอย่างไรเพราะฉะนั้นการที่ให้คำปรึกษาจะอยู่ในบอร์ด ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ จะได้ทำหน้าที่อย่างเป็นทางการมากขึ้น แล้วก็หลากหลาย เพียงแต่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดความรู้สึกหรือภาพลักษณ์ในลักษณะที่ผมพูดถึงครับ”
นอกจากนี้ “รศ.ดร.สมชาย” ยังได้กล่าวถึงเสถียรภาพของรัฐบาลไว้อย่างน่าสนใจ โดยมองว่า ยังแน่นปึก ไม่มีการยุบสภา แต่อาจมีการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.
“ผมคิดว่ารัฐบาลเองน่าจะมีเสถียรภาพที่ดี รัฐบาลเองตอนนี้ก็ทำอย่างน้อยที่สุด ก็มีผลงานที่ออกมาในหลายๆอย่าง ก็เป็นที่จับตา แล้วก็อย่างน้อยก็ที่สุด คนก็คือให้การสนับสนุนในระดับหนึ่ง เอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาลก็ดีมากและอีกอย่างหนึ่งต่อให้เกิดมันมีประเด็นปัญหา รัฐบาลคงจะไม่ได้ยุบสภา เพราะการยุบสภาก็เท่ากับเป็นการ Zero Sum Game เป็นเกมศูนย์ เพราะรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาล ยังไงก็ตามจะมีประเด็นอย่างนั้น ก็คงจะนำไปสู่การปรับเรื่องครม. แต่ไม่ใช่เป็นการยุบสภา เพราะถ้ายุบสภาเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นในเกมนี้ผมคิดว่าเสถียรภาพรัฐบาลมีดีพอสมควร และยิ่งในขณะนี้อยู่ในช่วงของการแสดงโชว์บอกผลงาน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลได้ทำไว้ ก็คงค่อยๆออกมา ซึ่งอันนี้เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังไงก็ตามโดยที่ยังไม่ต้องพูดถึงด้านอื่นน่าจะขยายตัวได้ดี ดังนั้นปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจกับตัวนี้ ก็คงจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาลในระดับหนึ่ง”
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาบทบาททางการเมืองเชื่อมโยงเศรษฐกิจของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร”อย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อแน่ว่า ทุกการขยับจะเข้มข้นมากขึ้น นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews