ผู้นำฝ่ายค้านพร้อมด้วยพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ต่อประธานสภาฯ เพื่อซักถามและเสนอแนะรัฐบาลภายใต้แกนนำของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดิน มา 6 เดือนแล้วยังไม่มีผลงาน ไม่ปฏิบัติตามคำสัญญาที่ได้หาเสียงไว้ ทั้งนี้ ยังต้องรอกำหนดวันอภิปรายอีกครั้ง เบื้องต้น คาดว่าจะสามารถอภิปรายได้ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ขณะเดียวกัน “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันพร้อมต่อสู้อย่างเต็มที่ หลัง กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กรณีล้มล้างการปกครอง
โดยนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 (แบบไม่ลงมติ) เพื่อเสนอแนะและซักถามแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อรัฐบาล โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ลงมารับญัตติด้วยตนเอง พร้อมระบุว่า จะส่งญัตตินี้ให้ฝ่ายเลขาฯ ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้น จะส่งเรื่องให้รัฐบาลกำหนดวันอภิปราย เพราะจะปิดสมัยประชุม ในวันที่ 9 เมษายน นี้ โดยเชื่อว่า จะสามารถเปิดอภิปรายได้ช่วงต้นเดือนเมษายน ก่อนปิดสมัยประชุม ทั้งนี้รัฐบาลไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ด้านนายชัยธวัช ย้ำว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลัง ที่ บริหารราชการแผ่นดินมา 6 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงที่ให้ไว้ต่อรัฐสภา ยังไม่ได้ขับเคลื่อนเพื่อการแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแท้จริง นโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐ รัฐสภา เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาความเห็นต่างด้านรัฐธรรมนูญ ฟื้นฟูหลักนิติธรรมและแก้ไขปัญหาพลังงาน ล้วนขาดยุทธศาสตร์และแนวทางปฏิบัติปฏิบัติที่ตรงเป้าหมาย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ยังพยายามทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ ปล่อยปะละเลย ให้ผู้มีอิทธิพล เอารัดเอาเปรียบ แสวงหาผลประโยชน์ โดยมิชอบเกิดการทุจริตเชิงนโยบาย เลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่กระจายอำนาจ ไปสู่ท้องถิ่น ไม่แก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมย้ำว่า การยื่นอภิปรายครั้งนี้เป็นการตรวจการบ้านรัฐบาล โดยจะทำงานในหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา ขอให้รอฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านได้เลย
ขณะเดียวกัน นายชัยธวัช ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันพรรคมีความพร้อมในการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และทำงานทุกวันให้ดีที่สุด ภายหลัง กกต. มีมติเอกฉันท์ส่งสำนวนคดีล้มล้างการปกครองให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ส่วนมีการตั้งพรรคสำรองหรือไม่นั้นขอยืนยันต่อสู้คดีถึงที่สุดก่อน ทั้งนี้ ไม่ห่วงกระแสการดูด สส.ในพรรค แต่เป็นห่วงสังคมไทยมากกว่า ที่ยังมีการเมืองแบบเก่า เพราะการยุบพรรคการเมืองไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองแต่อย่างใด ซ้ำร้ายอาจจะนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมืองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews