นายกฯ เป็นประธานประชุมนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เผย คกก.เห็นพ้องให้ก.คลังหาแหล่งเงินใช้ในโครงการ นอกเหนือการออกพ.ร.บ.เงินกู้ ด้าน “จุลพันธ์” เห็นพ้องนายกฯ รอความชัดเจน 10 เม.ย.นี้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567 โดยเปิดเผยว่า ที่ประชุมมีการรับทราบว่าเศรษฐกิจ มีปัญหามีความจำเป็นว่าจะต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจาก GDP มีการเติบโตต่ำตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเติบโตสูงกว่าไทยเป็นเท่า ฉะนั้นกระทรวงการคลังจึงเสนอความเป็นไปได้
ของแหล่งเงินในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ตนอกเหนือจากการออก พ.ร.บ.เงินกู้ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปดำเนินการ และรายงานในที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ รวมถึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์
สรุปหลักเกณฑ์ร้านค้า และสินค้านำมารายงานในที่ประชุมวันที่ 10 เม.ย.เช่นเดียวกัน นอกจากนี้มีการมอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและบอร์ดรัฐบาลดิจิทัล สรุปการพัฒนาระบบและจัดทำเปิดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบ ธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ โดยมารายงานในที่ประชุมวันเดียวกัน นอกจากนี้มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางกรอบการตรวจสอบวินิจฉัยกล่าวโทษและร้องทุกข์และการเรียกเงินคืนในวันเดียวกัน
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า วันที่ 10 เม.ย. เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดก็จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนเมษายน พร้อมยืนยันว่า กรอบเวลาไทม์ไลน์เป็นไปตามที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงก่อนหน้านี้ อาทิ ไตรมาสที่ 3 เปิดให้ร้านค้าและประชาชนลงทะเบียน และไตรมาสที่ 4 เงินถึงมือประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมวันนี้มีการประชุมกันกว่าครึ่งชั่วโมง โดยทุกภาคส่วนเห็นด้วยทั้งหมด อาทิ เลขาธิการสภาพัฒน์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด ฉะนั้นขอให้ฟังข่าวดีในวันที่ 10 เม.ย. เมื่อถามย้ำว่าแหล่งเงินนอกจากการกู้แล้ว จะหาอย่างอื่นมาประกอบด้วยหรือไม่ หรือจะกู้แค่บางส่วน นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ขอให้รอวันที่ 10 เม.ย.นี้
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตครั้งที่ 2/2567 ผู้ว่าการการธนาคารแห่ง ประเทศไทยไม่ได้เข้าร่วมด้วย โดยส่งรองผู้ว่าฯมาแทน ซึ่งได้ให้ความเห็นชอบกับสิ่งที่มีการนำเสนอและพิจารณา
ส่วนมั่นใจหรือไม่หลังจากนี้ผู้ว่าฯแบงค์ชาติจะไม่เห็นต่างกับการประชุมในวันนี้ นายจุลพันธ์ ระบุว่า ตนเองคงตอบแทนไม่ได้ ก่อนย้ำว่า อย่าถามเรื่องคนอื่นเพราะตนเองตอบแทนไม่ได้
เมื่อถามว่าความเห็นของผู้ว่าฯแบงค์ชาติยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า ครั้งที่แล้วผู้ว่าฯแบงค์ชาติ ได้ให้ขอนำความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.และความเห็นของกฤษฎีกา ไปศึกษาโดยละเอียด โดยทางฝ่ายเลขาฯได้เตรียมเอกสารและส่งมอบให้แล้ว ซึ่งท่านได้นำไปศึกษา แต่การประชุมครั้งนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ มีเพียงการนำรายงานฉบับจริงของ ป.ป.ช.เข้ามารับทราบในที่ประชุม ซึ่งไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เพราะเรื่องนี้ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว ทุกคนได้เห็นและศึกษารายละเอียดทั้งหมดแล้ว
ส่วนในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ที่จะมีการแถลงข่าวชัดเจน ไม่ว่าผู้ว่าฯแบงค์ชาติจะมีความเห็นอย่างไรก็จะเดินหน้าโครงการต่อใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า มีการเดินหน้าอยู่แล้ว แต่ก็รับฟังความเห็นทุกคนทุกฝ่ายและที่ประชุมในวันนี้ก็ชัดเจนว่าต้องเดินหน้า และขอให้ประชาชนรอฟังข่าวดีในวันที่ 10 เม.ย.นี้
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า จริงๆแล้วมีหลายเรื่องเพิ่มเติม ทั้งแหล่งเงิน ซึ่งกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณจะไปดูเรื่องรายละเอียดร้านค้า ส่วนเงื่อนไขต่างๆได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เรื่องการติดตามทุจริต การใช้เงินผิดประเภทมอบหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับเรื่องระบบได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทุกส่วนงานก็รับภารกิจไป วันที่ 10 เม.ย.จะกลับมาพูดคุยกันพร้อมข้อสรุปทั้งหมด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews