ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่รัฐสภา ดุเดือดเข้มข้นแทบจะทุกวัน เริ่มจากวันจันทร์อภิปรายทั่วไป มาตรา 153 ของ สว. ก่อนตามติดมาด้วยในวันอังคารพิจารณา พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่สภาผู้แทนราษฏรเห็นชอบแล้วจากนั้นวันพุธ เป็นคิวของ กฏหมายสมรสเท่าเทียม
ก่อนวันถัดมา จะเป็นการลงมติรายงานศึกษาสถานบันเทิงครบวงจรหรือคาสิโนเสรี ที่มีการเล่นเกมกันตลอดเวลาจนถึงขึ้นขานชื่อเช็คองค์ประชุม ก่อนปิดท้าย ประชุมร่วมรัฐสภามีมติยื่นตีความอำนาจของรัฐสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” พรรคเพื่อไทยเสนอ
ซึ่งในการพิจารณาครั้งนี้ ความคิดเห็นหลากหลายเป็นอย่างมาก แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทย อย่าง”อดิศร เพียงเกษ”ยังคัดค้านญัตติดังกล่าว เรามาสงสัยอำนาจของเราเองว่า ส.ส. , สว.และรัฐสภา มีอำนาจอะไรไม่มีปัญญาตีความอำนาจของตัวเอง ต้องไปอาศัยใช้บริการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คนชี้ขาด เช่นเดียวกับฝั่งของก้าวไกล “ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ” สส.บัญชีรายชื่อ ระบุสิ่งที่ทำคือการยื่นดาบให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน
ที่ถูกแต่งตั้งโดยกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ไม่อยากเห็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่สอดรับกับ “ธีรัจชัย พันธุมาศ” ส.ส.กทม.ก้าวไกล ที่อภิปรายว่า ถ้ารัฐสภาเอาญัตตินี้ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหมายความว่าไปให้อำนาจ ยื่นดาบ ยื่นคอ ไปให้เขาตัดสิน ประธานรัฐสภาจะถอดใจไม่กล้าหาญ และหวาดกลัวต่ออำนาจที่ไม่ได้ทำตามกฎหมายไม่ได้ จะต้องกล้าหาญกว่านี้
หลังการอภิปรายดุเดือด ประธานวันนอร์ จึงได้ชี้แจงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของประธานฯ สมาชิกไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกับประธานรัฐสภา และประธานสภาฯ เสมอไปตนปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับ เรื่องที่สมาชิกอภิปรายว่าทำไมประธานรัฐสภา จึงไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญที่ “นายชูศักดิ์” พรรคเพื่อไทย ได้เสนอ เพราะเป็นร่าง
แก้ไขทำนองเดียวกันกับเมื่อครั้งที่”นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์” กับคณะ เสนอเมื่อปี 64 ซึ่ง นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ ได้วินิจฉัยว่าไม่สามารถบรรจุ ร่างกฎหมายของนายสมพงษ์ได้ เมื่อชี้แจงกันเสร็จสรรพ สมาชิกอภิปรายกันต่อมีทั้งสนับสนุน และเห็นต่างเหมือนเดิม “สว.วันชัย สอนศิริ” เห็นด้วยกับการตีความโดยให้ความเห็นสั้นๆว่าหลายพรรคเห็นว่าถ้าทำไปแล้วจะมีปัญหาขัดรัฐธรรมนูญและเสียของ
เมื่อมีปัญหาข้อขัดแย้ง และประธานก็ไม่กล้าบรรจุ เกิดความขัดแย้งกัน เพราะฉะนั้นองค์กรที่จะวินิจฉัยคือศาลรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ชอบแล้ว และท้ายที่สุด อภิปรายกันกว่า 6 ชั่วโมง สภาก็ได้มีมติ 233 ต่อ 103 เสียงส่งศาลรัฐธรรมนูญาวินิจฉัยเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ
โดยมีงดออกเสียง 170 เสียง ซึ่งส่วนใหญ่คือก้าวไกล ที่มีมติพรรคงดออกเสียง ทั้งที่อภิปรายคัดค้านยื่นตีความอย่างดุดัน ซึ่งเดาไม่ออกว่ามันคือเกมอะไร เพราะหากก้าวไกล ลงมติไม่เห็นด้วย ก็อาจพลิกชนะไม่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้วนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews