วันนี้ที่ สำนักงาน Sittra Lawfirm นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณี 2 นายพลตํารวจระดับสูง เกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ ถูกดําเนินคดี 2 มาตรฐาน
โดยทนายตั้ม กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตนเองได้นัดหมายกับคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ที่มี พล.ต.ท. สรศักดิ์ เย็นเปรม เป็นประธานฯ ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบวินัยของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อความเท่าเทียมหลังก่อนหน้านี้ร้องตรวจสอบนายพลตํารวจระดับสูงท่านหนึ่ง แต่เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกสั่งให้ออกจากราชการแล้ว จึงมองว่าไม่มีความจําเป็นแล้ว โดยวันนี้ตนมาแถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนได้เห็นความเหมือนที่แตกต่างของการดําเนินคดีกับ 2 นายพลตํารวจระดับสูง
โดยทนายตั้ม ระบุว่าเว็บพนัน BNK Master มีที่มาจากประเทศสิงคโปร์ โดยมีการโอนเงินเข้าบัญชีม้าหลายบัญชี ซึ่งตัวหลักคือบัญชีม้าของ น.ส.พิมพ์วิไล ที่เป็นตัวหลักในการจ่ายส่วยต่างๆ ส่วน พ.ต.ท.คริษฐ์ ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถือบัญชีม้าหลายบัญชี ซึ่งมี 8 นายตํารวจ ที่ถูกดําเนินคดีในเว็บพนันของมินนี่
ปัจจุบันยังไม่ถูกออกจากราชการเพราะเส้นเงินโยงไปไม่ถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่พอมาถึงการจับกุมคดีเว็บพนัน BNK Master ทําให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกออกจากราชการไว้ก่อน เพราะมีเส้นเงินโยงไปถึงคนใกล้ตัว โดยพบเงินโอนจาก น.ส.พิมพ์วิไล เข้าไปยังบัญชีม้าที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ถืออยู่ เดือนละ 3 แสนบาท รวมถึงมีการโอนไปใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆและค่ารักษาพยาบาลรวมกว่า 4 ล้านบาทอีกด้วย หาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะอ้างไม่เคยรับเงินเว็บพนัน ส่วนตัวมองว่าฟังไม่ขึ้น
สําหรับความเหมือนที่แตกต่างของการดําเนินคดี 2 นายพลตํารวจระดับสูงนั้น ทนายตั้มระบุว่า มีการโอนเงินเข้าลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดือนละ 3 แสนบาท ซึ่งอีกฝั่งก็มีลักษณะเดียวกันคือใช้บัญชีม้ารับเงินเดือนละ 1 ล้านบาท โดยโอนไปยังคนใกล้ชิดของนายพลตํารวจระสูง รวมถึงจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนตัวเช่นเดียวกัน
อีกทั้งตนตรวจสอบบัญชีม้าเพียงบัญชีเดียวของ นายณัฐพงศ์ พบเงินเข้ากว่า 800 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 80 ล้านบาท ซึ่งได้มาจากเว็บพนันและ 18 ธุรกิจสีเทา แต่เหตุใด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถึงได้ถูกดําเนินคดีจนถึงขั้นสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพียงคนเดียว หากจะอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอหรือหลังฐานที่ตนมอบให้ได้มาโดยมิชอบ ตํารวจก็ควรจะทําให้ถูกต้องและแสวงหาพยานหลักฐานให้รวดเร็วเหมือนคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
โดยพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) ตนจะนําหลักฐานเกี่ยวกับการรับโอนเงินเว็บพนัน ไปยื่นเพิ่ม ที่ บก.ปปป. เวลา 10.00 น. ส่วน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. จะมารับเรื่องเองหรือไม่แล้วแต่ท่าน แต่อยากให้ดูตนเป็นตัวอย่างว่ากล้าแฉเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยไม่สนใจคําว่าพี่น้อง แล้วท่าน กับ รรท.ผบ.ตร. กล้าดําเนินคดีกับนายตัวเองหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า 2 มาตรฐานที่ทนายตั้มกล่าวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวหรือไม่ ทนายตั้ม ระบุว่า ไม่มีระเบียบในเรื่องนี้ แต่ทุกคนอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย แต่การสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ส่วนตัวมองว่ารวดเร็วหรือรีบร้อนผิดปกติ เพราะหากเรื่องส่งไปยัง ป.ป.ช. สถานะจะเปลี่ยนไปจากผู้ต้องหาเป็นผู้ถูกร้องเรียน ส่วนจะถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ต้องถามผู้รู้ที่เป็นกลางและไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตามในส่วนของการสู่คดีของ 2 นายพลตํารวจ ทั้งคู่คงปฏิเสธอ้างไม่รู้เรื่อง แต่อยู่ที่ศาลจะเชื่อหรือไม่ สุดท้ายคนที่ซวยคือลูกน้อง
โดยทนายตั้ม ยืนยันว่าการแถลงข่าววันนี้ เพื่อต้องการให้มีการดําเนินคดีอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งการออกหมายเรียก หากไม่มาก็ออกหมายจับรวมถึงออกราชการไว้ก่อน ให้ดําเนินการเหมือนๆกัน อย่าให้องค์กรตํารวจเสื่อมเสียอีก และหวังว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. จะดําเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะอนาคตอาจจะได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร. ตัวจริงก็ได้
ทั้งนี้ทนายตั้ม กล่าวทิ้งท้ายว่า นี้แค่เริ่มตน ยังมีเรื่องที่เตรียมออกมาแฉอีกหลายเรื่อง แต่ขอทําให้เสร็จทีละเรื่อง ส่วนข้อมูลของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่นํามาแถลงข่าวในวันนี้ได้มานานแล้ว แต่เพิ่งมีการเรียบเรียงเมื่อช่วงก่อนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันคําเดิมว่า “ทําเพื่อชาติ” ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น หวังให้ส่วยหมดไปหรือลดน้อยลง อย่ามองเป็นเรื่องธรรมดา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews