เห็นหน้าค่าตา ครม.”เสี่ยนิด 2″กันไปแล้ว มีทั้งคนสมหวังและผิดหวัง มีทั้งปรับเข้า เขี่ยออก โยกเก้าอี้และลาออก ครบรส เกมอำนาจการเมืองอำมหิต แต่ที่เป็นควันหลง เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ มี 2ประเด็น คือกรณี ดร.ตั๊ก “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ที่เพิ่งถูกริบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี เหลือเพียงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือถึงนายกฯเศรษฐา แจ้งขอลาออกจากทุกตำแหน่ง และกรณีของหมอชลน่าน ที่หล่นเก้าอี้เป็นไปตามการคาดหมายของหลายฝ่าย
กรณีแรก ปม”ปานปรีย์” ลาออกตบหน้าผู้มีอำนาจนั้น แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ยอมเปิดปากเล่าให้สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ว่า ที่ผ่านมา 8 เดือนคณะรัฐมนตรีเศรษฐา “ปานปรีย์” ถือเป็นหน้าตาของรัฐบาลชุดนี้ มีผลงานต่างประเทศเป็นที่ประจักษ์ ทั้งเรื่องของอิสราเอล หรือเรื่องของเมียนม่าที่ ปานปรีย์”เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งถ้าตัดเกรดการทำงานแล้ว”ปานปรีย์”เหนือกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆหลายขุมแต่ทว่าประเด็นหลักที่ลาออกนั้นมาการไม่ให้เกียรติกัน ทำอะไรไม่บอกกล่าวกันก่อน
เพราะก่อนหน้านั้น ผู้มีอำนาจเคยพูดคุยกับ”ปานปรีย์” ว่า “พี่ยังอยู่เหมือนเดิมนะ” ต่อมาช่วงโผครม.ปลิวผ่อนทั่วโลกโชเชี่ยล ผู้มีอำนาจมาบอกกับ”ปานปรีย์” ว่า “เดี่ยวจะมีการปรับครม.นะ” แต่ไม่ได้ชี้แจงและบอกอะไร เมื่อรายชื่อเปิดออกมา”ปานปรีย์” เหลือแค่ตำแหน่งรมว.การต่างประเทศ อย่างเดียว จึงทำให้เขารู้สึกว่า เป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติกัน ไม่ให้ความสำคัญกัน และที่ผ่านมาการเข้ามารับตำแหน่งนี้เขาไม่เคยเสนอตัว แต่เป็นการถูกเทียบเชิญเข้ามาทำงาน
อีกทั้งที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศส่วนใหญ่ จะมีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีพ่วงไปด้วย และ”ปานปรีย์” ระบุว่า “การมีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีพ่วงด้วยถือว่ามีความสำคัญ การเดินทางไปต่างประเทศ ไปเจรจาความใดๆ จะราบรื่นมากขึ้น ที่ผ่านมาทำงานได้ด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อเหลือตำแหน่งเดียว ผมเห็นว่าสิ่งที่จะดำเนินการต่อไปอาจไม่รวดเร็ว หรือราบรื่นเท่าที่ควร ถ้านายกฯเห็นว่ามีคนอื่นที่เหมาะสมกว่า ก็ให้มาทำงานแทนได้”
ทั้งนี้ มีการวางตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ไว้แล้ว นั้นคือนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เขาเคย รับราชการกระทรวงการต่างประเทศ ผ่านตำแหน่งสำคัญมากมาย ซึ่งในสมัย รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แต่งตั้ง “มาริษ” ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตฯ สาธารณรัฐวานูอาตู โดย “มาริษ” นั้นถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “ทักษิณ ชินวัตร” มานาน
ส่วนอีกกรณีคือหมอชลน่าน มีดราม่าตามมาอย่างเพจหมอชลน่านFc แต่งกลอนดุเดือด ว่า “ชลน่านพลีชีพโดดเดี่ยวโดนกระทืบ..ผู้คนหนีเข้าซอกหลืบหลบมุมไหน ..พอผ่านพ้นผู้คนตะเกียกตะกาย..เหยียบย่ำแย่งเป็นใหญ่ไร้ยางอาย” ซึ่งโพสต์นี้ มีคนเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย ที่น่าสนใจคือ บางคนคอมเม้นท์ว่า”น่าเห็นใจนะ ยามไม่มีใครนำทัพก็ใช้หมอเป็นตัวล่อ พอเสร็จศึก ก็ถีบหัวส่ง หรือบางคนก็คอมเม้นท์ ว่า ..”นักการเมืองรองบ่อน..ที่เจ้าของพรรคไม่เห็นความสำคัญใดๆ
-*
ขณะที่ เพจ “ชมรมแพทย์ชนบท” โพสต์ข้อความในทำนองว่า ขอบคุณหมอชลน่านที่วางรากฐาน reset งานใหม่ทั้งหมด หลังยุคนาย อนุทิน ชาญวีรกูล ที่แทบไม่ได้ขยับอะไรนอกจากนโยบายกัญชา แต่อุปสรรคที่มีมาก โดยเฉพาะจากข้าราชการที่คุมไม่อยู่ ระดับบิ๊กยังอืดไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ตอบสนองก็แย่แล้ว แต่ยังวางยารัฐมนตรีด้วย จนถูกข้าราชการวางกับดัก ให้เกิดเป็นคู่ขัดแย้งอย่างไม่รู้ตัวกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นั้นเอง
อย่างไรก็ตามต้องจับตาว่ากระแสข่าวก่อนหน้านั้น ที่ว่าจะนำหมอชลน่านไปให้มีบทบาทในสภานั้น จะทำได้จริงมากน้อยแค่ไหน และปม”ปานปรีย์”ลาออกนั้นจะทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลดูแย่ลงไป ในสายตาประชาชนหรือไม่?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews