ใจหายแว๊บกันเลยทีเดียว สำหรับราคาทองที่ร่วงลงต่อเนื่องหลุด 4 หมื่นบาทต่อบาททองคำ ล่าสุด ณ วันที่ 4 พ.ค.2567 ราคาทองซึ่งยึดโยงกับสมาคมค้าทองคำ พบว่า ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 39,950 บาท ขายออก 40,050 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 39,234.08 บาท ขายออก 40,550 บาท
ดังนั้นจึงมีคำถามเกิดขึ้นมามากมาย ว่า ราคาทองคำที่หลุด 4 หมื่นบาทต่อบาททองคำ เป็นขาลงแล้วหรือไม่ และราคาดังกล่าวที่ย่อตัวลงมานั้น ควรที่จะเข้าไปลงทุนซื้อเก็บได้แล้วหรือยัง ซึ่งทุกคำถามที่เกิดขึ้น วันนี้ มีคำตอบ
ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่า ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นสุดจะร้อนแรง เพราะสามารถขึ้นไปทำนิวไฮที่ระดับราคา 42,500 บาทต่อบาททองคำสำหรับทองรูปพรรณ และ 42,000 บาทสำหรับทองคำแท่ง เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2567 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากความตึงเครียดของสงครามในตะวันออกกลาง รวมถึงธนาคารกลางของประเทศต่างๆที่ซื้อตุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยมาจากการอ่อนค่าของเงินบาท, นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด
แต่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลงทันทีที่เปิดตลาด ซึ่งราคาที่ลดลงนั้น “น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก บอกกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ราคาทองในช่วงนี้เป็นการปรับฐาน หลังจากราคาปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา
“มีโอกาสที่จะหลุด 4 หมื่นบาทได้ ก็เรียกว่าประเด็นหลัก ต้องเข้าใจว่าเกิดจากการยืดดอกเบี้ย ที่จะลดดอกเบี้ยของเฟดออกไปอีก ประเด็นตรงนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับเรื่องสงครามเดิมที่เคยเป็นประเด็นที่ทำให้ราคาทองพุ่ง แต่จะเห็นได้ว่าพอไม่มีการขยายวงของสงคราม ตลาดก็ค่อนข้างจะเรียกว่าให้ความสำคัญตรงนี้น้อยไปหน่อย”
“น.พ.กฤชรัตน์” กล่าวย้ำว่า วันนี้ราคาทองเรียกได้ว่าอยู่ในช่วงของการปรับฐาน และถ้าถามว่าเข้าสู่ทิศทางขาลงแล้วหรือไม่ คำตอบก็คือ มีโอกาสสูง “แต่สำหรับราคา ณ ขณะนี้ ต้องบอกว่าในช่วงระยะสั้น เข้าสู่ที่เรียกว่า ปรับฐาน แต่ทีนี้จะเข้าสู่ทิศทางขาลงได้ไหม ก็ตอบว่ามีโอกาสสูง เพราะว่าราคาก็ดูเหมือนมีโอกาสจะย่อ เนื่องจากดอลลาร์เองยังแข็งแกร่ง ซึ่งจะเห็นว่าค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ก็เลยทำให้ค่าเงินบาทของเรากลับมาแข็งค่า กล่าวโดยสรุปก็คือ ในระยะสั้นๆ ยังเชื่อว่า ราคาทองยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงได้อีก”
และเมื่อถามถึงกลยุทธ์การลงทุนทองคำในช่วงนี้ น่าเข้าลงทุนได้แล้วหรือไม่ “น.พ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ถ้าสำหรับการลงทุน แนะว่าให้รอ แล้วเข้าซื้อบริเวณ 2,260 เหรียญฯ บวกลบในกรอบการลงทุน แต่ในส่วนของคนที่ซื้อออม ก็อยู่ในช่วงที่ทยอยซื้อสะสมได้
“ก็สำหรับราคาทองคำ ก็ต้องบอกว่า ตอนนี้เข้าสู่ในช่วงของการปรับฐานหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอดในช่วงเดือนมีนาคม การปรับฐานครั้งนี้ มีโอกาสที่จะลงไปที่บริเวณ 2,250 เหรียญฯบวกลบได้ จึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุน เพราะว่ามีขึ้นก็ต้องมีลง สำหรับระยะยาวๆ ก็ยังเป็นทิศทางปรับขึ้นอยู่ดี แต่ว่าในช่วงระยะสั้น เชื่อว่าจะต้องปรับตัวลดลงมาก่อน”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ “น.พ.กฤชรัตน์” ได้กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงแนวโน้มราคาทองคำในระยะยาวว่า มีโอกาสได้เห็นราคาทองที่ 45,000 บาทต่อบาทได้
ขณะที่ “ฮั่วเซ่งเฮง” ได้ฉายภาพรวมความเคลื่อนไหวของราคาทองที่ผ่านมา เคลื่อนไหวในกรอบแคบแถวบริเวณ 2,300 ดอลลาร์ แต่ก็ถือว่าเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 จากความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ลดลง ซึ่งการผลักดันการเจรจาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสครั้งใหม่ที่มีอียิปต์เป็นตัวกลาง ทำให้เกิดความคาดหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงอาจเกิดขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยนานขึ้น ซึ่งกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงมา และนี่ก็เป็นทิศทางราคาทองคำในประเทศไทย หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 4 หมื่นบาทต่อบาททองคำนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews