ทำท่าว่าจะอีก2 ประเด็น “ดราม่าภาคต่อ” นอกจากช็อต ที่บานปลายจาก อีเว้นต์เพื่อไทย“10เดือนไม่รอทำต่อให้เต็ม10”ศุกร์ที่แล้ว (3พ.ค.)ที่พา “ทัวร์ทุกสีทุกฝ่าย”ไปลงที่ “อุ๊งอิ๊งค์”หัวหน้าเพื่อไทย ที่ไปสปีคกิ้งวิ่งชนกำแพง “แบงก์ชาติ”เข้าให้โดยระบุว่าเป็นปัญหาขัดขวางการพัฒนา จน “ผู้คนเพื่อไทย”ต้องรีบออกมาตอบโต้และช่วยอธิบาย
แต่ “กระแส”ก็ยังโหมแรงจนทำที่จะบานปลายกลายเป็นท่าทีระหว่างรัฐบาลกับ “แบงค์ชาติ”ที่ฝ่ายการเมือง ทุกรัฐบาล แต่เดิมที่ถูกมอง“ต้นทุกความน่าเชื่อถือต่ำกว่า”อยู่แล้วยิ่งมาส่งสัญญานชัดว่าจะแก้กฎหมายแบงค์ชาติ ก็ยิ่งถูกจับตาร่องรอยกระเพื่อมจาก“เทคโนแครต”ฝั่งอนุรักษ์นิยม จน“นายกเศรษฐา”ที่เพิ่งนำครม. “เศรษฐา1/2”เข้าทำงานประชุมครม.เมื่อวาน(7พ.ค.)ต้องรีบออกมายืนยันว่าไม่เคยมีในหัวว่า “จะปลดผู้ว่าแบงค์ชาติ-เศรษฐพุทธ” ในขณะที่ “ขุนคลังคนใหม่-พิชัย”ออกมา แอ่นอกพร้อมรับหน้าเสื่อ บุกวังบางขุนพรหม เพื่อ “เคลียร์จบ”กับ “ผู้ว่านก-เศรษฐพุทธ”
กระนั้นในจังหวะ “ตำบลกระสุนตก”ยังอยู่ที่ “อุ๊งอิ๊งค์”และเพื่อไทยที่ตั้งใจจะรันแคมเปญ “เลข10เพื่อไทย”ต่อไปให้คะแนนเต็ม10 ในสัปดาห์นี้ จู่ๆก็พลันปรากฏ 2 ช็อตปรากฎการณ์ผ่าน “มือการเมืองเพื่อไทย”อย่าง “พี่อ้วน-ภูมิธรรม”และ “ผู้บารมีนอกรัฐบาล”อย่าง “ทักษิณ”คุณพ่อของ “อุ๊งอิ๊งค์” ทั้ง“ฉาก”กินข้าวเก่า10ปี15น้ำโชว์ ที่เป็น “ข้าวเก่า”ตั้งแต่สมัยโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นไฮไลท์การดำเนินคดีกับ“อดีตนายกปู”ซึ่งถูกเก็บไว้ในโกดัง
และรัฐบาลที่ผ่านมาของ “ลุงตู่”นำไปขายในราคาแบบอาหารสัตว์ จนถูกวิจารณ์เป็นการฟอกข้าวคดีรับจำนำข้าวเพื่อปูทางการกลับประเทศไทยของ“ยิ่งลักษณ์” และ ฉากที่ยังไม่มีการ “คอนเฟิร์ม”จาก “รับบาลพม่า”กรณี “ทักษิณ”เสนอเป็น “ตัวกลาง”ในการเจรจา ให้กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่าที่กำลังทำสงครามกับรัฐบาลทหารพม่า โดยมีรายงานออกมาจากสื่อพม่าจนสื่อต่างประเทศไปตีข่าวว่ามีการนัดคุยกันมาตั้งแต่เดือนมี.ค.-เม.ย.อันเป็นช่วงที่ “ทักษิณ”ขอปิ๊กบ้านไปเช็งเม้ง และ สงกรานต์
ที่2 ประเด็นร้อนที่ทำให้สังคมสนใจไปที่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”นี้ คล้ายมากลบข่าว “ชนกำแพงแบงค์ชาติ”ของ “อุ๊งอิ๊งค์”แต่ในทางเอฟเฟ็กต์ก็ส่งผลกระทบ “รัฐบาลเพื่อไทย” และ “นายกฯเศรษฐา”แม้ “พี่อ้วน”จะพยายามออกมาแจงถึง2วันติดต่อกันว่า การพาสื่อตรวจโกดังจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์ที่สุรินทร์ และหุงข้าวเก่า10ปีกินโชว์นั้น ไม่เกี่ยวและไม่เชื่อมโยงไปสู่การเคลียร์รื้อคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่ “ยิ่งลักษณ์”โดนดำเนินคดีเอาผิดจำคุกและหลบหนี และก่อนหน้านี้ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มี “สัญญาน”จาก “ทักษิณ”อยากให้ “น้องสาว”กลับมาร่วมเล่นน้ำวันสงกรานต์ปีหน้า
โดยจะอยากให้กลับมาช่วงเดือนต.ค.67 โดยบอก “ยิ่งลักษณ์” จะกลับหรือไม่กลับ ก็ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องนี้ ตนเองทำหน้าที่ในฐานะ รมว.พาณิชย์ที่ดูแลเรื่องนี้ จึงไม่อยากให้เรื่องนี้ค้าง ส่วนกระบวนการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องตนทำในขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ให้ชัดเจนทั้งหมด ที่คิดว่าจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ ใครอยากจะฟ้องอะไร จะชนะอะไรไปว่ากันเอง ตนทำตรงนี้เพื่อพิสูจน์ความเป็นจริงให้ชัดเจน ให้ศาลรับรองว่าทุกอย่างจะจบ ใครยังข้องใจ ตรงไหนก็ว่ามา ตอนเขาจะขายใคร ใครทานได้ใครทานไม่ได้ก็เชิญตนไปทานร่วมกันได้ ก็ยินดี
เช่นกันกับ “รัฐมนตรีป้ายแดง” “พิชิต ชื่นบาน”ทนายครอบครัวชินวัตร และ ทักษิณที่ยืนยันการตรวจโกดังของ “พี่อ้วน”ไม่เกี่ยวการเมือง และไม่ใช่การฟอกขาวคดีจำนำข้าว ของ “ยิ่งลักษณ์”โดยบอกอย่าไปคิดอะไรซับซ้อน แต่ตั้งข้อสงสัยว่าข้าวที่ค้างโกดัง 4-5 ปี ทำไมข้าวเน่าเสีย ถูกนำไปขายเป็นอาหารสัตว์ และทำเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งต้นทุนการทำเป็นเชื้อเพลิงไม่ควรนำข้าวไปเผา
โดยขณะนี้ได้รับเบาะแสว่าคนซื้อข้าวนำไปทำอะไร และมีรูปคดี เพราะมีคนมาร้องดีเอสไอ ซึ่งเรามีพยานหลักฐานเชื่อว่าคนซื้อไปไม่ได้เอาไปทำอาหารสัตว์ ส่วนการที่นายภูมิธรรม ทำไปเป็นการพิสูจน์เชิงประจักษ์ ข้าว 10 ปี นำมาทานได้หรือไม่ทราบว่า กินได้ และจำนำขายได้อีก ส่วนที่ว่าทำไม คดีจำนำข้าวถึงมาจุดติดในวันนี้ ทั้งๆ ที่เงียบไปนานนั้น เพราะรัฐบาลรับทราบว่าโกดังนี้ เร่งรีบขายเป็นโกดังสุดท้าย ในฐานะนักกฎหมาย มองว่า เหมือนเป็นการทำลายพยานหลักฐานบางอย่าง ยืนยันไม่มีการเมืองแต่เป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชน ถ้าข้าวดี ข้าวขายได้ เงินเข้ารัฐ ไม่มีเรื่องการเมือง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews