“งั้นผมขอยึดอำนาจการปกครองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”..คำสุดท้ายของ”พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ทำให้รัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวิตร สิ้นสุดลงนับตั้งแต่บัดนั้น
จวบจนถึงวันนี้ 22 พ.ค.2567 ครบรอบ 10 ปี รัฐประหาร ที่ขณะนี้อำนาจถูกเปลี่ยนไปแล้ว สวิงกลับไปอยู่ในอุ้งมือของคนตระกูลชินวัตรอีกครั้ง โดยใช้นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นฉากผู้นำเบื้องหน้า แต่ล้อมรอบไปด้วยคนจากสายชินเกือบครึ่งทำเนียบ
สำหรับ รัฐประหาร 22 พ.ค.นั้น เว็บไซด์สถาบันประปกเกล้าระบุว่า “เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ และอิทธิพลของ ทักษิณ ชินวัตร ในการเมืองไทย หลัง รัฐประหาร วันที่ 21 สิงหาคม 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเลือก พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี หลายประเทศประณามรัฐประหารครั้งนี้
ส่วนในประเทศไทยมีการตอบสนองทั้งสนับสนุนและต่อต้านในวัน 22 พ.ค.2557 นั้นมีหลากหลายตัวละคร บางคนหล่นหายไปตามเวลา บางคนยังคงถูกระลึกและพูดถึงอย่างต่อเนื่อง คนแรก แน่นอนว่าต้องเป็นบิ๊กตู่”พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หลังก่อการในครั้งนั้น เขาครองอำนาจรากงอกยาวนานกว่า 9ปี จนหมดวาระไปเอง และปิดฉากการเมืองไปอย่างเงียบๆ จากนั้นขยับขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญในฐานะองคมนตรี โดยยังมีคนพูดถึงทั้งในฐานะถวิลหา หรือบางคนอาจขุ่นข้องหมองใจหลายเรื่องที่บริหารประเทศมายาวถึง9ปี
คนต่อมาคือ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นายกรัฐมนตรี คนที่ 28 เธอถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เธอ และรัฐมนตรี 9 คนพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี จากการโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี และหลังจากนั้นอีก 15 วัน บิ๊กตู่ก็โค่นอำนาจรัฐบาลของเธอ ทำให้เธอต้องออกไปใช้ชีวิตนอกประเทศกับพี่ชาย จนกระทั่ง 10ปีผ่านไป พี่ชายได้กลับมาตุภูมิ ปูพรมแดงกลับบ้านแบบชิลๆ ในขณะที่เธอรอดจากคดีความต่างๆจนเหลือแค่คดีเดียวคุก 5 ปี รอวันเคลียร์ผู้มีอำนาจกลับบ้านตามพี่ชาย
คนต่อมาคือ “ชัยเกษม นิติสิริ” ตัวแทนรัฐบาลในวันที่ยึดอำนาจ โดยเขาเล่าว่า”หลังประกาศยึดอำนาจ ก็มีกลุ่มทหารอาวุธครบมือ กรูกันเข้ามาควบคุมตัว เอาปืนจี้ผมและจับคณะพรรคเพื่อไทยที่ทุกคนถูกหลอกให้ไปร่วมประชุมด้วย ก่อนจะควบคุมตัวแยกย้ายไปกักขังไว้ในค่ายทหารหลายแห่ง ผมและพวกอีก 4 คนถูกคุมเข้มคือ มัดมือ ปิดตา
นำขึ้นรถตู้ และกักขังที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี ต่อมา “ชัยเกษม”เป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยคนต่อมา คู่ปรับทักษิณ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เสาหลัก กปปส. ที่ชุมนุมยืดเยื้อเร่าร้อน ในช่วงนั้นถูกลือว่าวางแผนการยึดอำนาจร่วมกับบิ๊กตู่..ทาง”สุเทพ”เคยตอบว่า “อันนั้นคงเกินไปหน่อย
วางแผนร่วมกันก็ไม่ใช่ ร่วมมือกันก็ไม่ใช่ แต่ถ้าถามว่ามีเป้าหมายเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเหมือนกันหรือไม่ ตอบว่า ใช่ ความจริงรู้จักกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทำงานด้วยกันเมื่อปี 2552-2553″ และหลังรัฐประหารปี 57 เทพเทือก ก็ค่อยๆลดบทบาทลง แต่ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาลสู้อีกหลายคดีคนต่อมา”จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช.
ในขณะนั้น เขาเคยกล่าวถึงรัฐประหารในครั้งนั้นว่า “”การยึดอำนาจจึงเป็นความหายนะของชาติ ทุกอย่างตั้งแต่จุดเริ่มต้นบอกไม่ยึดอำนาจแต่ก็ยึดอำนาจ สัญญาว่าอยู่ไม่นานก็เป็นนาน บอกไม่สืบทอดอำนาจก็เขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ รับปากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่แก้ และประกาศจะปฏิรูปประเทศก็ไม่ปฎิรูป อีกทั้งจะปราบโกงก็ไม่ปราบ ” ส่วนเวลานี้ จตุพรยังเป็นนักเคลื่อนไหววิพากษ์ทักษิณ เป็นงานหลัก
ทั้งนี้ 22 พ.ค.2557 เป็น รัฐประหารครั้งที่ 13 และเป็นรัฐประหารครั้งสุดท้าย ณ เวลานี้ นั้นเท่ากับ ผ่านมาแล้ว10 ปี ประเทศเรายังไม่เกิดการยึดอำนาจจากปลายกระบอกปืนอีกเลย แต่ก็ยังไม่มีหลักประกันใดๆที่การันตรีได้ว่า รัฐประหารครั้งที่ 14 จะไม่เกิดขึ้น?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
