ก็เหตุเอ็งต้องคำสั่ง ก็เลยถือว่าคุณไม่ซื่อ เขาตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผม ตำรวจบอกไม่มี ผมไม่เคยทำผิดประมวลกฏหมายอาญาใด ผมไม่มีเรื่องใน ปปช.ผมไม่มีกระทั่งคดีแพ่ง ยังไม่เคยถูกฟ้องว่าผิดสัญยากับใคร ถามไปก็ตอบไม่ได้หรอกครับ
นั่นคำพูดของ “พิชิต ชื่นบาน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าทีมกฏหมายประจำตระกูล”ชินวัตร” เจ้าของฉายา “ทนายถุงขนม” ที่ตอบอย่างมั่นใจ และดุดัน คุณสมบัติของตัวเองนั้นครบถ้วน ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หรือประมวลจริยธรรม ในการดำรงตำแหน่งอย่างแน่นอน ประกอบกับคนสำคัญในรัฐบาล อย่าง “ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ ที่เชื่อมั่นรัฐบาลทำทุกอย่างถูกต้อง
เหมือนกับ ที่ “เศรษฐา ทวีสิน” ยืนยันข้ามทวีปมาจากอิตาลี ในประเด็นที่ 40 สว.ยื่นคำร้องต่อศาลรับธรรมนูญวินิจฉัย “นายกฯเศรษฐา” กรณี แต่งตั้ง “พิชิต” ประกอบกับ “สุทิน คลังแสง”รัฐมนตรีกลาโหมก็แนะนำว่าอย่าลาออก ให้ยืนหยัดสู้คดีให้ถึงที่สุด แต่คล้อยหลังเพียงไม่กี่ชั่วโมง “พิชิต” ก็ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการมีผลทันที 22 พ.ค. พร้อมระบุถึงเหตุผลสำคัญ
“เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี” จึงตีความเป็นอื่นไม่ได้ว่า การสแดงสปิริตของ “พิชิต” ครั้งนี้ คือการสละเบี้ย เพื่อรักษาขุน เซฟนายกฯเศรษฐาหวังศาลรัฐธรรมนูญตีตำคำร้องของ 40 สว. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมหารือจะรับ หรือไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย 23 พ.ค.นี้ ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่มีใครคาดเดาได้ ว่า เมื่อลาออกแล้ว ทุกอย่างจะจบ หรือเดินหน้าต่อ และการลาออกครั้งนี้ จะเป็นหลักฐาน ที่มัดตัว นายกฯเศรษฐา แน่นกว่าเดิม เพราะหากไม่ผิด ไม่ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แล้วจะลาออกทำไม
ก่อนหน้านี้ รศ.สมชัย ศรีสุทธิยาการ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง คาดเดาทิศทางของคำร้อง 40 สว.เอาไว้ 4 แนวทางค่อยข้างน่าสนใจ ประกอบด้วย 1) ไม่รับคำร้อง,2) รับคำร้อง แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ , 3) รับคำร้อง และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 1 ราย และ 4) รับคำร้องและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 2 ราย ซึ่งจะออกหน้าไหน ไม่มีใครรู้และแนวทางนี้ รศ.สมชัย แสดงความเห็นไว้ก่อนที่ “พิชิต” ลาออก ขณะที่ “รศ.ดร.ยุทธพร อิสระชัย” อาจารย์ประจําสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ถึงกรณีนี้ว่า ไม่รับคําร้อง หรือ รับคําร้อง และถ้ารับก็จะมีประเด็นต่อไปว่า นายกฯรวมทั้งรัฐมนตรี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ตนเองมองโลกในแง่ดี มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้ง 2 ด้าน แบบ 50/50 ส่วน “พิชิต ไชยมงคล” แกนนำ คปท. ระบุ หลัง “พิชิต ชื่นบาน” ลาออกว่า
กรณีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องพิจารณาต่อไป การลาออกเพื่อตัดตอนไม่ให้ถึงนายกฯ ของนายพิชิต ก็เหมือนตอกย้ำว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติตาม รัฐธรรมนูญ ม.160 จริงๆนั่นเอง ยุติตำแหน่งเฉพาะตัวเองไป แต่คำร้องต่อนายกฯเศรษฐานั้นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง เพราะเศรษฐา ได้กระทำผิดสำเร็จแล้ว จากการนำชื่อ “พิชิต” ขึ้นทูลเกล้าฯ ดังนั้นจะว่าไปแล้ว
การเป็นรัฐมนตรี 19 วันของ “พิชิต”จะว่าถือเป็นโชคดี ก็นับว่าได้หรือจะถือว่าเป็นโชคร้ายของ”เศรษฐา” ก็นับได้ด้วยเช่นกัน เพราะมื่อฟอร์ม ครม.ครั้งแรก เดือนสิงหาคม ก็สกัดชื่อ “พิชิต” เอาไว้ได้ แต่พอมาปรับอีกครั้ง 7 เดือนให้หลัง กลับใส่ชื่อเข้ามาอีกรอบ จึงบานปลาย กลายเป็นช่องโหว่ให้ 40 สว.ยื่นคำร้องเอาผิด และสุ่มเสี่ยงให้นายกฯ ต้องกระเด็นตกเก้าอี้ไปด้วยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews