จับสัญญาณการเมืองไทยใน 3 ประเด็นร้อนเชื่อมโยงเศรษฐกิจ หลังนายกรัฐมนตรี “นายเศรษฐา ทวีสิน” กำลังเผชิญกับคดีความ กรณีแต่งตั้งรัฐมนตรีที่อาจขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ
เช่นเดียวกับ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ตามข้อกล่าวหาที่ทำผิดตามป.อาญามาตรา 112 โดยมีกำหนดยื่นฟ้องคดีต่อศาล 18 มิ.ย. รวมถึงพรรคก้าวไกลที่ต่างกำลังเผชิญกับการดำเนินคดีที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส มองว่า คดีของอดีตนายกฯทักษิณ และของนายเศรษฐาอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในเสถียรภาพทางการเมือง และเกิดความกังวลต่อการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปอีกระยะ จนกว่าจะเห็นความชัดเจน
เช่นเดียวกับ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ที่มองว่าสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มความกังวลต่อประเด็นการเมืองที่อาจถูกนำมาเชื่อมโยงต่อความมีเสถียรภาพของรัฐบาลกดดันทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่า และน่าจะเป็นปัจจัยกดดันต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะ Fund Flow ต่างชาติ
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถาม รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองถึง 3 ประเด็นร้อนการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น โดย “รศ.ดร.สมชาย” กล่าวว่ากรณีของนายกฯเศรษฐา ยอมรับว่า มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ แต่ไม่มากเพราะล่าสุดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 อยู่ในขั้นตอนของการเร่งเบิกจ่ายแล้ว
ส่วนกรณีของอดีตนายกฯทักษิณ “รศ.ดร.สมชาย” มองว่า แม้อดีตนายกฯทักษิณจะถูกมองเป็นผู้ทรงอิทธิพล แต่การถูกดำเนินคดีก็เชื่อว่าไม่มีผลต่อเศรษฐกิจ เพราะแนวทางนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด นอกจากนี้ “รศ.ดร.สมชาย” ยังได้กล่าวถึงกรณีของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีประเด็นการยุบพรรคไว้อย่างน่าสนใจอีกด้วย
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด เพราะความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นที่จะดูอึมครึมอีกครั้งนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews